EasyBlog

This is some blog description about this site
ขอแนะนำ 3 สุดยอดทิวทัศน์ของญี่ปุ่นให้ทุกคนรู้จัก

​สวัสดีวันหยุดครับ ในสัปดาห์นี้ โอทารุขอพักเรื่องใบไม้แดงมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวระดับ "Top 3" ของญี่ปุ่นกันครับ โดยทั้งสามสถานที่นั้น ถือว่าขึ้นชื่อและมีความสวยงามมากจริงๆครับ ก่อนอื่นเรามาดูข้อมูลเบื้องต้นกันเลยครับ

3 สุดยอดทิวทัศน์ของญี่ปุ่น (日本三景 Nihon Sankei) นั้น ได้รับอิทธิพลมาจากนักปราชญ์ญี่ปุ่นชื่อ Hayashi Gahō ในช่วงปี 1643 ซึ่งเป็นยุคที่ญี่ปุ่นเข้าสู่ความสงบและมีโชกุนตระกูลโตกุกาวะปกครอง สมัยนี้สงครามแทบไม่มีแล้ว ทำให้นักปราชญ์เริ่มศึกษาหาความรู้และเผยแพร่คำสอนได้อีกครั้งครับ

ทั้ง 3 สุดยอดวิวนั้น จะกระจายตัวอยู่ในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ที่ญี่ปุ่นยังมี 3 สถานที่ในการดูทิวทัศน์ยามค่ำคืน รวมทั้งยังมีการคัดเลือกสถานที่ชุดใหม่เพิ่มเติมด้วย แต่ในบล็อกนี้ผมจะขอกล่าวถึงเฉพาะ 3 สุดยอดทิวทัศน์ฉบับดั้งเดิมของญี่ปุ่นนะครับ (ทุกวันนี้ฉบับดั้งเดิมก็ได้รับความนิยมกว่าสถานที่ชุดใหม่ด้วย)

สำหรับสถานที่ทั้งสามแห่งที่ว่า มีชื่อดังนี้ครับ 

1.Matsushima Bay (อ่าวมัตสึชิมะ) จังหวัดมิยางิ

2.Amanohashidate (สันทรายอามาโนะฮาชิตาเตะ) จังหวัดเกียวโต 

3.Itsukushima (ศาลเจ้าอิทสึคุชิม่าบนเกาะมิยาจิม่า) จังหวัดฮิโรชิม่า


​ทั้งสามสถานที่ หากดูจากแผนที่ญี่ปุ่นแล้ว จะแอบกระจายตัวนิดนึงครับ ส่วนท่านใดที่ถามว่า "ถ้าไปญี่ปุ่นครั้งเดียว สามารถดูได้ครบป่าว?" ผมคงต้องบอกว่า "ได้ครับ แต่เหนื่อยมากกกกและควรใช้รถไฟเป็นหลัก เนื่องจากชินคันเซนช่วยร่นระยะเวลาเดินทางได้เยอะ ทั้งนี้ควรมีเวลาเดินทางเฉพาะสามแห่งนี้อย่างน้อย 5-7 วันขึ้นไปครับ" เอาเป็นว่า หากท่านใดชอบที่ไหนเป็นพิเศษ น่าจะเจาะลึกทีละครั้งจะดีกว่าครับ ส่วนที่ตั้งทั้งสามแห่งมีดังนี้

1.Matsushima Bay (อ่าวมัตสึชิมะ)

​อ่าวมัตสึชิมะ ตั้งอยู่ในจังหวัดมิยางิ ซึ่งจังหวัดนี้อาจไม่คุ้นหูชาวไทย แต่ถ้าผมบอกว่า "มันอยู่ใกล้ๆเซนไดนั่นแหละครับ" ก็น่าจะร้องอ๋อกันบ้างเนอะ คือ เมืองเซนไดก็คือ เมืองหลวงของจังหวัดมิยางินี่ล่ะ เปรียบของไทยก็อารมณ์อำเภอเมืองน่ะครับ 

ที่อ่าวมัตสึชิมะนั้น มีความโดดเด่นก็คือ มีเกาะเล็กเกาะน้อยมากถึง 260 เกาะและแต่ละเกาะก็จะมีต้นสนขึ้นตามที่ต่างๆของเกาะด้วยรูปร่างแปลกตา ทำให้บริเวณนี้ได้รับความชื่นชมจากนักปราชญ์หรือกวีชาวญี่ปุ่นที่หลงใหลในธรรมชาติครับ

การมาเที่ยวมัตสึชิมะนั้น จะใช้การล่องเรือเป็นหลัก โดยปกติจะใช้เวลาเฉลี่ยราวๆ 1 ชั่วโมงพร้อมแล่นไปตามเกาะต่างๆที่เป็นไฮไลต์ครับ ส่วนบนบกแถวท่าเรือก็มีวัดญี่ปุ่นเก่าแก่ชื่อ Zuigan-ji และ Entsu-in ซึ่งมีความน่าสนใจไม่น้อยครับ

พิกัด GPS : 38°21′59.1″N 141°4′26.6″E

การเดินทาง : นั่งรถไฟ Tohoku Shinkansen จากโตเกียวมาลงที่สถานี Sendai แล้วต่อรถไฟ JR สาย Sensaki ลงที่สถานี Matsushima -Kaigan (ใช้เวลา 40 นาที) จากนั้นเดินต่ออีกราวๆ 10 นาทีก็จะเจอท่าเรือครับ 

2.Amanohashidate (สันทรายอามาโนะฮาชิตาเตะ)

​สันทรายแห่งนี้ เมื่อก่อนไม่ค่อยมีผู้คนกล่าวถึงนักเพราะเป็นพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลักมากๆ แม้ว่าสันทรายดังกล่าวจะตั้งอยู่ในจังหวัดเกียวโตก็ตาม (ห่างจากเมืองเกียวโตที่เราๆท่านๆนิยมไปเที่ยวถึง 2 ชั่วโมงกว่าเลยทีเดียว) ทว่า ปัจจุบันหลังจากได้รับการโปรโมตมากขึ้นรวมทั้งมีพาสรถไฟที่สามารถอำนวยความสะดวกให้เข้าถึงได้อย่างง่ายดายก็ทำให้ระยะหลังๆ นั้น สันทรายแห่งนี้ก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นครับ

ตัวสันทรายนี้ จะต้องขึ้นเนินเขาไปชมวิวถึงจะได้ภาพสวยๆครับ (หากมองจากสถานีรถไฟก็จะไม่ว้าวเท่าไหร่) ส่วนการขึ้นเนินเขาก็ไม่ต้องห่วงเพราะเขามี ropeway ให้เราขึ้นไปชมได้อย่างสะดวกสบายครับ อย่างไรก็ตามขอกระซิบว่า นักท่องเที่ยวอย่างเราควรทำตามเจ้าถิ่น ด้วยการ มองวิวนี้ลอดหว่างขาตัวเองครับ เนื่องจากคนญี่ปุ่นบอกต่อๆกันมาว่าเป็นวิธีดูที่ถูกต้อง นอกจากนี้ หากจินตนาการจากภาพสันทรายที่มองลอดหว่างขาแล้ว สันทรายนี้ก็จะเหมือนกับมังกรที่กำลังทะยานขึ้นสู่ฟ้าด้วย (โอ้โห คนสมัยก่อนนี่สุดยอดจริงๆครับ ช่างเปรียบเปรยโดยแท้) 

ท่านใดที่ไปลองมาแล้วก็อย่าลืมบอกเล่าให้ฟังกันด้วยนะครับว่าสันทรายแห่งนี้หน้าตาเหมือนอะไรบ้าง ^^

พิกัด GPS : 35°34′12.4″N 135°11′31.1″E

การเดินทาง : มีสองวิธีที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวดังนี้

1. เริ่มต้นที่สถานี JR Kyoto ให้นั่งรถไฟด่วน Hashidate ยิงตรงถึงสถานี Amanohashite ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

2. ใครที่อยู่ Osaka ให้ขึ้นรถไฟด่วน Konotori แล้วนั่งมาลงที่สถานี Toyooka จากนั้นเปลี่ยนมาใช้รถไฟเอกชน Kyotango ลงที่สถานี Amanohashidate ก็ได้เช่นกัน (ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมงครึ่ง) 

3.Itsukushima (ศาลเจ้าอิทสึคุชิม่า) จังหวัดฮิโรชิม่า

​ในบรรดาสุดยอดทิวทัศน์ ส่วนตัวผมมั่นใจว่าที่นี่คือ ที่ๆฮิตที่สุดครับ เพราะเดินทางสะดวก และมีภาพถ่ายเยอะมากๆ ในเพจท่องเที่ยวญี่ปุ่นหรือแม้กระทั่งบริษัททัวร์ครับ แน่นอนว่า พูดถึงเกาะมิยาจิม่า ส่วนใหญ่ทุกคนก็จะนึกถึง โทริอิ (เสาแดง) ขนาดใหญ่ที่อยู่กลางน้ำนั่นเอง คือ โทริอิ นี้ก็พูดง่ายๆว่าเป็นเหมือนประตูที่แสดงอาณาเขตว่านี่คือบริเวณของศาลเจ้าญี่ปุ่นตามความเชื่อของศาสนาชินโตนั่นเองครับ สำหรับศาลเจ้าแห่งนี้ นอกจากมีโทริอิกลางน้ำที่สวยงามแล้ว ศาลเจ้าแห่งนี้ยังอยู่ติดทะเลซึ่งจะมีปรากฎการณ์น้ำขึ้นน้ำลงทุกวันซึ่งจะให้บรรยากาศที่ไม่เหมือนใครด้วยครับ (ถ้าน้ำลง เราก็สามารถเดินไปถึงโทริอิได้สบาย ผมก็เดินลงไปแล้วเหมือนกันครับ)

นอกจากศาลเจ้าแล้ว บนเกาะมิยาจิม่ายังมีถนนคนเดินและภูเขา Misen ที่เราสามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลในโซโตะและโดยรอบได้ด้วยครับ ยิ่่งช่วงไหนที่มีซากุระหรือใบไม้แดงก็จะได้รับความนิยมเป็นพิเศษครับ ส่วนใครที่เป็นสายธรรมชาติ ภูเขาลูกนี้ก็มีเส้นทาง trekking ให้ได้ออกกำลังขากันหลายเส้นทางด้วยล่ะครับ ส่วนใครที่ติดใจเกาะแห่งนี้ ที่พักบนเกาะก็มีให้เลือกมากมายตั้งแต่ Hostel ไปจนถึงเรียวกังที่มีออนเซนครับ

พิกัด GPS : 34°17′45.6″N 132°19′11.4″E

การเดินทาง : มีสองวิธีที่ง่ายสำหรับนักท่องเที่ยว

1.นั่ง Sanyo Shinkansen จากสถานี Shin-Osaka มาลงที่สถานี Hiroshima (1 ขั่วโมงครึ่ง) แล้วนั่งรถไฟ JR สาย Sanyo ลงที่สถานี Miyajimaguchi อีกราวๆ 25 นาที จากนั้นเดินเท้าต่ออีก 10 นาทีก็จะถึงท่าเรือเฟอร์รี่ที่จะพาเราไปที่เกาะมิยาจิม่าครับ (เฟอร์รี่นั่งราวๆ 20 นาที)

2.จากสถานีรถราง Hiroshima ให้นั่งรถรางสาย 2 มาลงสุดสายที่ป้าย Miyajimaguchi แล้วเดินต่ออีก 5 นาทีก็จะเจอกับท่าเรือเดียวกันครับ (นั่งรถรางนานหน่อย ราวๆ 1 ชั่วโมงครับ)

​และทั้งหมดนี้ก็คือ 3 สุดยอดทิวทัศน์ของญี่ปุ่นที่ผมขอแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักครับ ประเทศญี่ปุ่นนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมาก ยังไงผมจะมาแนะนำเป็นระยะนะครับ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในสัปดาห์ถัดไปกับเรื่องราวดีๆจากโอทารุครับ!

หมายเหตุ : หากท่านใดอ่านบล็อกนี้แล้วรู้สึกว่าอยากไปเที่ยว แต่รู้สึกไม่แน่ใจว่าจะไปเที่ยวเองได้หรือเปล่า หรือกำลังมองหาไกด์คนไทยในญี่ปุ่น/ทัวร์ส่วนตัวที่สามารถพาเที่ยวได้แบบสบายๆ ผมก็ขอแนะนำบริษัท I love japan Tours ซึ่งเขามีบริการทัวร์ส่วนตัวเที่ยวเซนไดและอ่าวมัตสึชิมะ ด้วยนะครับ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอีกสองแห่งก็สามารถติดต่อบริษัทให้จัดทำเส้นทางได้เช่นกัน ยังไงก็ลองคลิกเข้าไปอ่านรายละเอียดก่อนได้ครับ

​เนื้อหาและภาพประกอบบางส่วนจาก wikipedia

ภาพปกจาก hdwallsbox

ภาพประกอบจาก japanspecialista, เว็บไซต์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะมิยาจิม่า, mk-groupget your guide, เว็บไซต์ส่งเสริมการท่องเที่ยว amanohashidate และเว็บไซต์ส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น (JNTO) 

ข่าวร้ายสายเที่ยว! ญี่ปุ่นเตรียมเก็บภาษีเพิ่มเป็น ...
แนะนำ 7 สิ่งน่ารับประทานช่วงใบไม้เปลี่ยนสี