​สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ สำหรับสัปดาห์นี้ โอทารุขอเสนอข้อมูลที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านเป็นอย่างมากในการวางแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นช่วงเดือนตุลาคมไปจนถึงต้นเดือนธันวาคมครับ เพราะเนื้อหาในวันนี้จะเป็นเรื่องพยาการณ์ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นที่หลายๆท่านต่างรอคอยนั่นเองล่ะครับ!

​สำหรับข้อมูลที่ผมนำมาเขียนให้ทราบนั้น ผมไม่ได้เขียนขึ้นมาเอง แต่ใช้ข้อมูลจาก Japan Weather Association (JWA) ซึ่งเป็นหนึ่งในเว็บไซต์พยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นที่มีความแม่นยำและไว้ใจได้ในระดับนึงครับ อย่างไรก็ตาม...ผมขอเตือนก่อนสักนิดว่า ทุกวันนี้สภาพอากาศในโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เดี๋ยวก็มีพายุ เดี๋ยวก็ร้อนตับแตก เดี๋ยวก็หิมะตกหนัก ดังนั้น ผมขอให้ทุกท่านหมั่นตรวจสอบสภาพอากาศหรือข่าวที่เกี่ยวข้องให้ดีก่อนเดินทางด้วยนะครับ เพราะข้อมูลต่างๆไม่ว่าในเว็บไซต์ไหนก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงแบบกะทันหัน จึงขอบอกว่า ให้ใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นแนวทางในการกำหนดวันเที่ยวญี่ปุ่นก็พอครับ อย่าใช้เป็น "ตัวการันตี" นะครับ เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย

​ก่อนอื่น ผมขอนำภาพแผนที่ประเทศญี่ปุ่นที่ปีนี้มีการคาดการณ์การเปลี่ยนสีของใบไม้ไว้ดังนี้ครับ

​จากภาพนี้ จะเห็นได้ว่า บริเวณเหนือจรดใต้จะมีโทนสีเหลืองแดงที่ต่างกันออกไปในแต่ละโซนของญี่ปุ่นนะครับ ขอสรุปแบบง่ายๆก็แล้วกันว่า วงจรใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นจะเริ่มจากบริเวณที่หนาวจัดก่อนแล้วค่อยไล่ลงมาโซนที่อุ่นกว่า ดูง่ายๆครับ ฮอกไกโดหนาวกว่าใครก็จะใบไม้เปลี่ยนสีไวที่สุด รองลงมาก็แถวภาคอีสานของญี่ปุ่นแล้วก็มาภาคกลาง ส่วนโตเกียวกับโอซาก้าที่เป็นเมืองยอดฮิตก็ต้องรอถึงปลายเดือนพฤศจิกายนโน่นแหละครับถึงจะเปลี่ยนสีชัดเจน (ก็แถวนี้มันหนาวไม่มากไง) สุดท้ายก็ไปจบที่เกาะคิวชูซึ่งมีอากาศที่ไม่หนาวทารุณเมื่อเทียบกับฮอกไกโด ทำให้วงจรในการเปลี่ยนสีจะช้ากว่าฮอกไกโดถึงสองเดือนเลยทีเดียวครับ 

ทีนี้ผมจะขออธิบายเป็นภูมิภาคเพื่อให้ท่านผู้อ่านสามารถแยกข้อมูลได้ตรงกับโซนที่จะไปเที่ยวตามความต้องการของแต่ละบุคคลครับ

ภูมิภาค Hokkaido

​คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากกับภูมิภาคสุดฮิตแห่งนี้ครับ เพราะนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมาที่นี่กันเยอะมากจริงๆ แต่การชมใบไม้เปลี่ยนสีในภูมิภาคนี้ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมจากชาวไทยมากนักเนื่องจากส่วนใหญ่แล้วจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีแบบสวยนั้น "ต้องไปดูบนภูเขา" แม้ว่าหลายๆแห่งจะมีกระเช้าขึ้นไปก็จริง ทว่าความสวยงามของใบไม้แดงของที่นี่มักจะอยู่บนยอดเขาที่ต้องออกแรงเดินกัน ส่งผลให้ไม่ค่อยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวบ้านเรานัก ประกอบกับภูมิประเทศที่เน้นธรรมชาติส่วนมาก จึงไม่มี background ที่เป็นวัดหรือสิ่งก่อสร้างที่เราชินตาตามภาพโฆษณา อีกทั้ง "ยังไม่ถึงเวลาปิดเทอม" ของเด็กๆ ทำให้เกาะฮอกไกโดอาจจะไม่ใช่จุดหลักที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีเมื่อเทียบกับฝั่งโตเกียวหรือโอซาก้าครับ ทั้งนี้ สำหรับท่านใดที่สนใจอยากมาชมฮอกไกโดในยามที่ภูมิประเทศเป็นสีส้มสีแดงแบบแปลกตาก็สามารถคลิกที่นี่เพื่อดูทัวร์ส่วนตัวเที่ยวฮอกไกโดได้ครับ

และผมก็ขอสรุปข้อมูลให้ทุกท่านทราบการพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ดังนี้ครับ

ภูมิภาคโทโฮขุ

​เป็นภูมิภาคอีสานของญี่ปุ่นที่เริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอื่นๆครับ โดยมีสถานที่เด็ดๆที่น่าสนใจมากมาย เช่น Yama-dera ลำธารโออิราเสะ ทะเลสาบโทวาดะ ซากปราสาทโมริโอกะ ฯลฯ ทั้งนี้ สภาพอากาศในแถบนี้จะมีความหนาวเย็นน้อยกว่าฮอกไกโด ทำให้วงจรของใบไม้เปลี่ยนสีจะช้ากว่าประกอบกับสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งไม่ได้อยู่บนเขาสูงนั่นเองครับ (หากสนใจก็คลิกทัวร์เที่ยวโทโฮขุเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ครับ)

สำหรับตารางพยากรณ์ของภูมิภาคดังกล่าวนั้น มีข้อมูลดังนี้

ภูมิภาคคันโต

​คงไม่ต้องบอกก็รู้กันว่า คันโตก็คือ ดินแดนตะวันออกซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงโตเกียวซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศนั่นเองครับ!!! และนอกจากโตเกียวที่มีแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีในเมืองหลายจุดแล้ว ใบไม้เปลี่ยนสีที่เมืองนิกโก้ หรือ Takaragawa Onsen ก็โด่งดังไม่แพ้แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆเช่นกัน  (สนใจทัวร์เที่ยวคันโตช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคลิกที่นี่) 

อย่างไรก็ตาม บริเวณตอนบนของภูมิภาคนี้ อากาศจะเย็นเร็วกว่าแถวโตเกียวพอสมควร บางปีอาจจะมีสถิติใบไม้เปลี่ยนสีที่ต่างกันเป็นหลักเดือนเลยทีเดียวครับ สำหรับตารางปี 2018 ก็อยู่ด้านล่างแล้วล่ะ

ภูมิภาคจูบุ

​ภูมิภาคจูบุก็คือ บริเวณภาคกลางของญี่ปุ่น หรือถ้าจะเรียกให้เข้าใจง่ายๆก็คือ แถวๆนาโงย่านั่นแหละครับ แต่ภูมิภาคนี้กว้างขวางและเต็มไปด้วยภูเขาสูงมากมาย อ้อ หมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะกับเมืองเก่าทาคายาม่าก็อยู่ในภูมิภาคนี้ รวมถึงชิสึโอกะซึ่งเป็นแหล่งชาเขียวชั้นดีและเป็นจังหวัดที่สามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้แบบเต็มๆตาจากหลายที่ครับ มาดูพยากรณ์ปีนี้กันเลยครับ

ภูมิภาคคันไซ-ชูโกกุ

​ปัจจุบันนี้ คันไซถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่เฉพาะชาวไทยเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงชาติอื่นๆด้วย เพราะคันไซเป็นที่ตั้งของเมืองเก่าโบราณที่มีความงดงามหลายแห่ง เช่น เกียวโต นาระ ฮิเมจิ แน่นอนว่า เมืองยอดฮิตที่สุดในแถบนี้ก็คือ เกียวโต ซึ่งเป็นเมืองเก่าอดีตราชธานีในยุคเฮอันที่เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นเมืองหลวงสมัยโบราณของญี่ปุ่นเป็นเวลาถึง 1 พันปีนั่นเอง!!! นอกจากนี้ ผมขอรวมภูมิภาคชูโกกุซึ่งมีเมืองฮิโรชิมาเข้ามาด้วยเพื่อให้ข้อมูลฝั่งนี้มีความกระชับครับ สำหรับปีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปีที่ตั๋วเครื่องบินมีโปรโมชั่นออกมายั่วใจนักเดินทางกันเยอะมาก ส่วนท่านใดที่สนใจทัวร์ส่วนตัวชมใบไม้แดงเที่ยวภูมิภาคนี้ในช่วงดังกล่าวก็สามารถคลิกที่นี่ได้ครับ 

แน่นอนว่าโอทารุเองก็ได้รวบรวมข้อมูลพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีมาให้ทุกท่านแล้วดังเช่นภูมิภาคอื่นๆ โดยมีข้อมูลดังนี้

ภูมิภาคคิวชู

​สำหรับภูมิภาคสุดท้ายที่ผมจะกล่าวถึงก็คือ ภูมิภาคคิวชูซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮอนชูนั่นเอง แม้ว่าคิวชูจะไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีมากนัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลยนะครับ สำหรับท่านใดที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศก็สามารถมาลองเที่ยวที่คิวชูได้ โดยเฉพาะที่ Kurokawa ซึ่งเป็นเมืองออนเซนนั้น มีชื่อเสียงยามใบไม้เปลี่ยนสีมากๆ นอกจากนี้ Yufuin ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมเสมอในทุกฤดูกาลด้วยครับ

​และข้อมูลทั้งหมดนี้ก็คือ พยากรณ์สภาพการชมใบไม้เปลี่บนสีประจำปี 2018 ครับ ทั้งนี้ ผมขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า การพยาการณ์ที่แจ้งนั้นเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น แต่ถึงเวลาจริง การกำหนดช่วงเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้จากหลายสาเหตุโดยเฉพาะปัจจัยในเรื่องของสภาพอากาศที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น พายุหรือปรากฎการณ์ต่างๆที่มนุษย์ไม่สามารถแก้ไขได้ ดังนั้น ผมจึงขอให้ท่านผู้อ่านทราบข้อมูลเหล่านี้ไว้เพื่อเป็น guideline เท่านั้นนะครับ 

สำหรับสัปดาห์นี้ผมมีข้อมูลมานำเสนอเพียงเท่านี้ และก่อนจากกัน ผมขอแนะนำทัวร์สุดพิเศษช่วงใบไม้เปลี่ยนสีให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบกันอีกครั้ง เป็นทัวร์ส่วนตัวที่รับรองว่าจะพาไปชมจุดไฮไลต์ของญี่ปุ่นที่นักเดินทางส่วนใหญ่จะไม่เคยพบเจอครับ ก็หวังว่าบล็อกนี้จะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านนะครับ แล้วพบกันใหม่ในสัปดาห์ถัดไป สวัสดีครับ

​แหล่งข้อมูลจาก tenki.jp ครับ