EasyBlog

This is some blog description about this site
รีวิว Tokyo Ueno New Izu Hotel : ที่พักดี ทำเลเด็ด ช็อปปิ้งสะดวก

สำหรับสัปดาห์นี้ โอทารุขอเปลี่ยนบรรยากาศการท่องเที่ยวมาเป็นการรีวิวโรงแรมอีกหนึ่งแห่งที่มีความน่าสนใจและผมได้ไปพักจริงมาครับ โดยส่วนตัวก็ประทับใจและประหยัดเงินในกระเป๋าพอสมควรก็เลยมาเขียนรีวิวให้เพื่อนๆได้เก็บเป็นข้อมูลกันนะครับ!

ในครั้งนี้ผมจะขอพาทุกท่านเข้าสู่ย่านอุเอโนะ (UENO) ซึ่งปัจจุบันย่านนี้ก็มีเพื่อนๆชาวไทยให้ความสนใจเป็นจำนวนมากทีเดียว เนื่องจากย่านนี้มีสวนสาธารณะอุเอโนะที่โด่งดังและยังเป็นสถานที่ชมซากุระแห่งหนึ่งที่ครึกครื้นที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียวด้วยครับ อาหารการกินก็มากมายแบบสบายกระเป๋าและยังมีแหล่งช็อปปิ้งราคาไม่แพงอย่าง Ameyoko อยู่ก็ยิ่งทำให้ย่านนี้เป็นอีกย่านในดวงใจของนักเดินทางชาวไทยไปโดยปริยาย

และเมื่อพูดถึงย่านนี้แล้ว ก็เป็นอีกย่านหนึ่งที่น่าพักแรมครับเพราะโรงแรมแถวนี้มีราคาไม่แพงนักเมื่อเทียบกับย่านชินจุกุ (เผลอๆขนาดห้องก็ใหญ่กว่าด้วย) อย่างไรก็ตามย่านอุเอโนะอาจจะไม่มีชื่อเสียงมากนักในเรื่องท่องราตรีหรือเป็นแหล่งเที่ยวของเหล่าผู้รักกลางค่ำกลางคืนนะครับ (ดึกๆจะเงียบกว่าแถวชินจุกุพอสมควร) ดังนั้น เพื่อนๆที่รักแสงสียามดึกอาจจะต้องคิดให้ดีครับถ้าจะมานอนที่อุเอโนะ เพราะรถไฟญี่ปุ่นก็ไม่ได้วิ่งทั้งวันทั้งคืนครับ เลยเที่ยงคืนไปนิดหน่อยก็กลับเข้า depot กันแล้วล่ะ!

เอาล่ะ เกริ่นมาสองย่อหน้าแล้ว ก็ได้เวลาพาไปรีวิวโรงแรม Tokyo Ueno New Izu Hotel กันได้เลยครับ 

ก่อนอื่นบอกภาพรวมของโรงแรมแห่งนี้ก่อนว่าเป็นโรงแรม "2 ดาว" และไม่ได้ติดสถานีรถไฟแบบไม่กี่ก้าวถึงเหมือนหลายๆโรงแรมที่เรารู้จัก ส่วนขนาดห้องนั้นมีตั้งแต่เล็กไปจนถึงกลางๆ สำหรับการบริการนั้นก็อย่าไปคาดหวังอะไรมาก ประเภทจะหวังให้มี facilities เยอะๆ มีสระน้ำ มีฟิตเนส มีพนักงานยกกระเป๋า มี room service ล่ะก็ ผมขอบอกตรงๆเลยว่า"ผิดที่แล้วเพ่ จองที่อื่นเลยนะ" และคำถามที่ว่าเหมาะกับนักท่องเที่ยวแบบไหน ผมก็ขอตอบเลยว่าเหมาะกับกลุ่มเพื่อนๆไปเที่ยวด้วยกันสัก 4-6 คน (อันนี้ประสบการณ์ตรงโอทารุ) หรือครอบครัวที่ "ไม่เยอะ" คือ รับกับห้องแคบๆได้ มีลิฟต์แคบๆ ต้องลากกระเป๋าเอง กับ front ที่พูดภาษาอังกฤษได้พื้นฐานครับ หรือจะเหมาะกับคู่รักหนุ่มสาวที่มีกำลังวังชา เดิน 400 เมตรไปรถไฟได้และอยากประหยัดเงิน+ต้องการห้องส่วนตัว ที่นี่ก็ตอบโจทย์ได้ครับ

 

ที่ตั้ง

รอบๆโรงแรมเองก็มีสถานที่สำคัญที่เราสามารถเดินเท้าไปถึงได้อย่างสะดวกสบายอยู่หลายแห่ง เช่น

1. สถานีรถไฟ JR Ueno, รถไฟใต้ดินและสถานีรถไฟ Keisei จะอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม ระยะทางราว 500 เมตร ใช้เวลาเดิน 7 นาทีครับ

2. ตึกม่วงหรือ Takeya Building (สาขาหลัก) ตึกนี้ขาช็อปปิ้งรู้จักกันดี อยู่ใกล้โรงแรมครับ เดินเพียง 500 เมตร ก็ถึงแล้ว

3. ตรอกอาเมะโยโกะ ย่านช็อปปิ้งและของกินชื่อดังของชาวไทย อยู่ห่างไปประมาณ 500 เมตร เดิน 7 นาที

4. สวนสาธารณะอุเอโนะ (นับจากรูปปั้นท่านไซโก ทาคาโมริ) ประมาณ 600 เมตร ใช้เวลาเดินราวๆ 10 นาที

5. ห้าง Don Quijote (ห้างดองกี้ 24 ชั่วโมง) ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินราวๆ 15 นาที

ขอบอกเพิ่มเติมอีกนิดว่าที่สถานี Ueno เราสามารถขึ้นชินคันเซนต่อไปเมือง Sendai, Aomori หรือจะนั่งยาวไปที่เกาะฮอกไกโดก็ได้นะครับ สะดวกมากๆเลย ส่วนใครที่จะกลับสนามบินนาริตะก็ยิ่งสะดวกเพราะที่สถานี Keisei Ueno มีรถไฟด่วนพิเศษ Skyliner วิ่งยาวถึงสนามบินได้ภายในเวลาเพียง 40 นาทีเท่านั้น!!! เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลทองของนักท่องเที่ยวชาวไทยครับ!!!

ทีนี้มาพูดเรื่องการเดินทางไปโรงแรมกันบ้างนะ

เริ่มต้นจากสถานีรถไฟ Ueno จะมีสะพานลอยก็ให้ขึ้นสะพานลอยแล้วลงมาฝั่งตรงข้ามสถานี จะเจอถนนแคบๆยาวๆ ให้เดินตรงมาเรื่อยๆ สังเกตทางขวามือจะมีร้านสะดวกซื้อ Lawson แล้วเลยไปนิดเดียวจะมีซอยให้เลี้ยวขวาก็ให้เดินตรงมาอีกจนเจอซอยที่มีสี่แยกเล็กๆก็ให้เลี้ยวซ้ายแล้วเดินตรงผ่านแยกไฟแดงไปนิดเดียวก็จะเห็นป้ายโรงแรมพร้อมทางเข้าอยู่ทางด้านซ้ายมือครับ อยากบอกว่าข้างๆโรงแรมเป็นร้าน Lawson อีกสาขานึงด้วย ใครจองห้องแบบไม่รวมอาหารเช้าก็มาซื้อตรงนี้ได้เลย สบายโคตรๆ :)

หน้าตาของ Lobby ในโรงแรม

อย่างที่บอกไปครับ เนื่องจากโรงแรมนี้เป็นโรงแรมระดับสองดาว lobby ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก จะมีโซนรับแขกเล็กๆและมีเก้าอี้นวดให้แขกได้ใช้กันด้วย ถัดไปก็จะเป็น Front และลึกเข้าไปจะเป็นลิฟต์และบันไดเพื่อลงไปร้านอาหาร (หรือจะเดินขึ้นไปห้องพักก็ได้)

หน้าตาห้องพักเป็นอย่างไร?

บอกก่อนว่าผมมากับเพื่อนสมัยมัธยม พวกเราสี่หนุ่มตกลงกันว่า จะนอนห้องแบบเสื่อทาทามิเพื่อให้ได้สัมผัสการนอนแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่นก็เลยมีภาพที่ถ่ายจากกล้องของผมให้ดูเพียงแบบเดียวครับ ใครอยากดูห้องประเภทอื่นๆก็เปิดจากเว็บไซต์ของโรงแรมนะครับ (มี link ให้ด้านล่าง)

ห้องพักที่ผมได้เข้าพักจะเป็นห้องแบบญี่ปุ่น (นอนสองคน) ตามที่บอก ซึ่งผมปลื้มสุดๆเพราะห้องกว้างกว่าที่คิดในราคา 2,700 บาทต่อห้อง (ก็คนละประมาณพันสามร้อยบาท) ถือว่าคุ้มราคาจริงๆเพราะขนาดห้องสไตล์ญี่ปุ่นห้องนี้มีพื้นที่ทั้งหมดตั้ง 20 ตารางเมตรเลยนะครับ...โอเค มันฟังดูธรรมดามากสำหรับคนที่ยังไม่เคยมาญี่ปุ่น แต่โปรดทราบไว้เลยว่า ค่าเฉลี่ยขนาดห้องพักของโรงแรมระดับ 2-3 ดาวในโตเกียวและที่อื่นๆจะอยู่ที่ประมาณ 10-14 ตารางเมตรครับ!!! ดังนั้นได้ 20 ตารางเมตรในเขตหลักของเมืองหลวงที่ค่าครองชีพแพงติดอันดับโลกอย่างโตเกียวนี่ถือว่าดีมากแล้วล่ะนะ...อ่ะ ชมภาพห้องกันครับ

จะสังเกตได้ว่าภายในห้องจะเรียบๆ ไม่มีการตกแต่งอะไรมาก แต่ก็มีทีวี ตู้เย็นและตู้เสื้อผ้า กาต้มน้ำร้อนและชาให้นะครับ แถมมีชุดยูกาตะให้ใส่เป็นชุดนอนด้วยนะครับ ส่วนฟูกในภาพนั้นก็แบบในการ์ตูนครับ นึกถึงห้องนอนโนบิตะได้เลย อารมณ์นั้นแหละ เอาจริงๆ คือ ผมว่านอนสบายมากๆนะครับ (ฟูกปูเองนะครับ แล้วพอตอนเช้าเราออกไปจากห้อง เดี๋ยวพนักงานจะมาเก็บเข้าที่ให้)

สำหรับห้องน้ำก็ถือว่าออกแบบได้ดี คือเขาแยกห้องสุขากับห้องอาบน้ำไว้คนละส่วน ถ้าใครมากับเพื่อนแบบผมนี่สบายเลย ไม่ต้องมานั่งเกี่ยงกันว่าใครจะอาบน้ำใครจะทำธุระหนักก่อนกันเพราะมันมีประตูปิดแยกส่วนครับ สบายใจได้ ^^

 

ส่วนห้องพักแบบอื่นๆที่ผมไปค้นข้อมูลมาให้ก็มีหลากหลายแบบครับ จะเป็นห้องแบบตะวันตก นอนเดี่ยว นอนคู่ (เตียงคู่หรือเตียงดับเบิ้ล) ไปจนถึงห้องสำหรับครอบครัว (Family Room) ก็มีให้เลือกเช่นกัน ราคาก็ไม่แพงนะครับ ประมาณพันบาทต้นๆ ยังไงก็ลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์ของเขากันได้นะครับ แถมมีข่าวดีจะบอกคือ เขามีเว็บไซต์ภาษาไทยแล้วนะ!!! สงสัยคนไทยไปพักเยอะจริงๆ อ่ะเอาลายแทงไปครับ https://izuhotel.co.jp/th/room/

ตัวผมเองนั้น ได้มีโอกาสพักที่นี่กับเหล่าเพื่อนจำนวน 4 คืนด้วยกัน บรรยากาศโดยรวมต้องบอกว่าที่นี่นักท่องเที่ยวชาวไทยมาพักเยอะมาก แต่ก็ไม่ได้เสียงดังอะไร แล้วก็จะมีชาติเอเชียอื่นๆคละกันไปบ้างครับ เจ้าหน้าที่โรงแรมก็โอเคนะ พูดภาษาอังกฤษแบบพื้นฐานได้ ถามทางได้ แต่อาหารเช้าผมไม่ได้ทานเพราะจองห้องแบบ Room only ใครจะจ่ายเพิ่มก็บอก front ได้ (คิดราคาประมาณ 1,000 เยนครับ ไปถึงที่แล้วเช็คอีกทีก็แล้วกันนะ) ส่วนถนนหนทางตอนกลางคืนก็ถือว่าบรรยากาศไม่ได้น่ากลัวหรือวังเวงมากนัก ผมจ๊ะเอ๋คนเมาไม่กี่คนเอง รถราก็ยังวิ่งกันอยู่พอสมควร ทว่าขอกระซิบดังๆหน่อยว่า ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ข้างโรงแรมอ่ะ...อาหารเวฟหมดไวมาก! พวกข้าวหน้าหมู สปาเก็ตตี้ ซูชิ ฯลฯ ไปไวจริงๆครับ ถ้าเห็นแล้วมั่นใจว่าจะทานแน่ ผมแนะนำให้ซื้อเก็บแล้วแช่ตู้เย็นสำหรับซูชิครับ ส่วนอาหารเวฟ ใครจะลงมาซื้อตอนเช้าก็ตามสะดวกครับ (แต่สิ่งที่อยากกินจะมีอยู่ไหม..ไม่การันตีนะ) อย่างไรก็ตาม ถ้าถามว่าจะกลับมาพักที่นี่อีกไหม โอทารุขอบอกว่า "ยินดีครับ" เพราะราคาไม่แพง แถมที่ตั้งก็ไม่ได้เดินไกลหรือหายากจนปวดหัวครับ กำลังสบายๆเลยล่ะ ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังจะไปเที่ยวโตเกียวนะครับ ขอให้ได้พักในโรงแรมที่โดนใจกันถ้วนหน้าทุกคนคร้าบบบบบ

-----------------------------------------------------------------

ภาพปกจาก https://images.oyster.com/photos/twin-room--v18034390-w902.jpg

ข้อมูลห้องพักจาก https://izuhotel.co.jp/en/room/

ภาพ Lobby จาก www.agoda.com

ภาพแผนที่โรงแรมจาก https://izuhotel.co.jp/images/07_access/access_img04_en.jpg

ภาพถ่ายห้องพักที่มีลายน้ำเป็นภาพจากกล้องของโอทารุทั้งหมด ใครจะนำไปใช้กรุณาขออนุญาตก่อนนะครับ

-----------------------------------------------------------------

ติดต่อโอทารุผู้เขียนบล็อกนี้ได้อย่างไร

เพื่อนๆสามารถร่วมพูดคุยหรือสอบถามเรื่องการท่องเที่ยวญี่ปุ่นกับผมได้ด้วยการพิมพ์ชื่อ Otaru Taichou ในช่องค้นหาของ Facebook แล้วกดเพิ่มเพื่อนครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปกดตกลงเองครับ!

   

แนะนำเว็บไซต์เฝ้าระวังภูเขาไฟระเบิดที่ญี่ปุ่น
เจ้าหน้าที่สนามบินคันไซสุดมึน เหตุเจอคน(ตั้งใจ)ทิ้...