ในสัปดาห์นี้ แม้ว่าที่ญี่ปุ่นจะมีข่าวเรื่องสภาพอากาศไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่นัก แต่ทางภูมิภาคโทโฮขุก็ถือว่าโชคดีกว่าภาคอื่นๆนะครับ เพราะในตอนกลางคืนนั้น บางจังหวัดจะมีอุณหภูมิที่ลดลงเหลือประมาณ 25 องศาเท่านั้น ซึ่งกำลังเย็นสบายเลยล่ะครับ และในครั้งนี้ โอทารุก็จะพาทุกท่านเดินทางไปรู้จักกับสถานที่ล่องเรือชื่อดังที่ชื่อว่า อ่าวมัตสึชิมะ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น ครับ
สำหรับจังหวัดมิยางินั้น ผมบอกแค่ชื่อแบบนี้หลายคนอาจจะงงเป็นไก่ตาแตกว่า ที่ไหนเหรอ? แต่ถ้าผมบอกว่า "มันอยู่ในเซนไดครับ" เชื่อว่าท่านผู้อ่านชาวไทยน่าจะร้องอ๋อกันเยอะขึ้นมากเพราะปัจจุบันนี้เมืองเซนไดก็นับว่าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยวชาวไทยนั่นเองครับ อ้อ! ขอย้อนกลับไปเรื่องข้อมูลสักนิดว่า จริงๆแล้ว มิยางิคือชื่อจังหวัด ส่วนเซนไดคือชื่อของเมืองหลวงประจำจังหวัดมิยางิครับ (ก็เหมือนอำเภอเมืองในประเทศไทยนั่นแหละ) ซึ่งอ่าวมัตสึชิมะนี้จะอยู่ในเขตจังหวัดมิยางิเช่นกัน ทว่าจะอยู่ออกนอกเมืองเซนไดไปสักหน่อยครับ เอาล่ะ เกริ่นเรื่องที่ตั้งมาพอแล้ว เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ!
การเดินทาง
จริงๆแล้วจังหวัดมิยางิอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัดครับ โดยมีสองทางเลือกที่สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยวคือ
1. บินด้วยสายการบินในประเทศจากสนามบินฮาเนดะหรือนาริตะแล้วไปลงที่สนามบินเซนได (การบินไทยเคยมีเส้นทางบินตรงจากกรุงเทพด้วย แต่เหลือแค่บินแบบเหมาลำเท่านั้น)
2. เดินทางด้วยรถไฟชินคันเซน วิธีนี้ได้รับความนิยมมากกว่าเครื่องบินครับ ชินคันเซนเส้นนี้จะเรียกว่าสาย Tohoku เราสามารถขึ้นรถไฟชินคันเซนได้จากสถานี Tokyo และ Ueno โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 100-120 นาทีครับ (บางขบวนจะเป็นแบบจองที่นั่งล้วน อย่าลิมจองก่อนขึ้นรถไฟนะครับ) สำหรับสถานี Sendai นั้น อยู่กลางเมืองเลย สะดวกสบายมาก ส่วนใครจะไปเที่ยวอ่าวมัตสึชิมะต่อ ให้นั่งรถไฟ JR ท้องถิ่นมาลงที่สถานีรถไฟชื่อ Matsushima Kaigan ครับ (ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงจากสถานี Sendai)
สภาพโดยรวม
อ่าวมัตสึชิมะ เป็นอ่าวที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และมีชื่อเสียงเรื่องความงดงามมาแล้วตั้งแต่หลายร้อยปีก่อน ปัจจุบันมีเกาะต่างๆ ราวๆ 200 เกาะกระจายอยู่ในอ่าวและมีต้นสนขึ้นบนเกาะที่มีรูปร่างๆแปลกตาด้วย ส่งผลให้อ่าวแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 สุดยอดทิวทัศน์อันสวยงามของญี่ปุ่นครับ
สำหรับการสัมผัสกับทิวทัศน์อันสวยงามแห่งนี้ก็ต้องใช้วิธีการ "ล่องเรือ" ครับ โดยเรือที่ล่องก็จะมีให้บริการตั้งแต่เช้ายันเย็นและมีหลายคอร์สให้เราเลือกตามกำลังทรัพย์และเวลาที่มี โดยการล่องเรือในแต่ละครั้งจะใช้เวลา 30 นาทีสำหรับคอร์สสั้น และ 1 ชั่วโมงสำหรับคอร์สยาว ที่สำคัญมีชูชีพให้ตามกฎหมายทุกลำครับ สบายใจได้แน่นอน!
ลงเรือที่ไหน?
สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ที่สถานีรถไฟ JR ชื่อ Matsushima Kaigan ครับ ไม่ไกลจากสถานีรถไฟจะมีท่าเรือที่มีเรือจอดคอยนักท่องเที่ยวอยู่เพียบเลยครับ ส่วนท่านใดที่มาด้วยรถเช่าหรือมากับทัวร์ก็จะมีลานจอดรถให้บริการเช่นกัน ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่จอดรถนะครับ ส่วนเรือที่ให้บริการทุกท่านนั้น จะให้บริการตลอดทั้งปีครับ
อย่างไรก็ตาม ผมขอเตือนสักหน่อยว่า แม้ปกติเรือจะให้บริการตลอดทั้งปี แต่ถ้าวันไหนทัศนวิสัยไม่ดี พายุเข้า หรือมีความเสี่ยงอื่นๆ เรือก็อาจจะไม่ออกจากท่า เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวนะครับ!!!
ทิวทัศน์รอบอ่าวเป็นอย่างไร
พอลงเรือแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะเปิดเสียงตามสายเพื่อทักทายผู้โดยสารที่อยู่บนเรือเป็นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษครับ จากนั้นเรือก็จะเริ่มล่องไปตามเส้นทางเรื่อยๆ จากนั้นสักพักเราจะเริ่มเห็นนกนางนวลบินตามเรือครับ! ใช่แล้ว นกนางนวลเหล่านี้จะบินตามเรือเพราะพวกมันรู้ว่ามันมีอาหารให้พวกมันได้ทานครับ (เราสามารถซื้ออาหารที่ขายบนเรือแล้วเอาไปโยนให้นกเหล่านี้ได้ครับ บางตัวที่ไม่กลัวคนจะบินลงมาโฉบไปจากมือเราเลย แต่ถ้ากลัวหน่อยก็จะบินตามแล้วอ้าปากรอเราโยนให้ครับ นอกจากนี้เรายังสามารถเดินออกมาจากภายในเรือเพื่อถ่ายภาพด้านนอกได้ด้วยครับ อย่างไรก็ตาม หากมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาว อากาศแถวนี้จะหนาวจัดมาก หากออกมายืนด้านนอกนานๆ ต้องระวังไม่สบายนะครับ เพราะแถวนี้ลมแรงมากๆ!
สำหรับเกาะต่างๆที่มีรูปร่างประหลาดและน่าสนใจนั้น โอทารุได้รวบรวมมาแล้ว ดังนี้ครับ!
1. Nio-jima เป็นเกาะเล็กๆที่ชาวญี่ปุ่นเล่ากันว่าหน้าตาเหมือนนีโอ (ทวารบาล) ที่อยู่หน้าประตูวัดของญี่ปุ่น
2. Sengan-jima เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีต้นสนขึ้นอยู่ต้นเดียว และแปลกตามาก ว่ากันว่าเมื่อ 400 ปีก่อนสมัยซามูไรครองประเทศนั้น ไดเมียวตาเดียวผู้โด่งดัง นามว่า ดาเตะ มาซามุเนะ ซึ่งเป็นผู้ครองเมืองแถบนี้ได้มาล่องเรือชมความงามที่อ่าวแห่งนี้และประทับใจเกาะนี้มากจนเอ่ยปากว่า "ใครยกเกาะนี้ไปไว้ที่สวนในปราสาทของข้าได้ ข้าจะให้เงิน 1,000 กัง" ซึ่งคำว่า กัง (gan) นี้ก็คือ หน่วยเงินในญี่ปุ่นสมัยก่อนครับ ส่วน Sen ในภาษาญี่ปุ่นก็คือจำนวน "หนึ่งพัน" นั่นเอง เกาะแห่งนี้จึงแปลว่า เกาะหนึ่งพันกัง ครับ
3. Komone-jima เป็นเกาะที่มีชาวบ้านเล่าขานกันว่าหากใครล่องเรือผ่านโค้งใต้หินตรงปลายเกาะจะมีอายุยืนขึ้นอีก 3 ปี อย่างไรก็ตามหินตรงปลายเกาะที่เป็นโค้งนั้น พังทลายจากเหตุสึนามิถล่มญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 ไปเสียแล้วครับ เศร้า...
4. Kane-jima เป็นเกาะที่มีรูลอดเป็นโค้ง 4 โค้งด้วยกันและถือว่าเป็นหนึ่งในเกาะที่มีคนถ่ายภาพมากที่สุดครับ (ได้ยินมาว่าช่างภาพญี่ปุ่นบางคนจ้างเรือมารอถ่ายภาพพระอาทิตย์ลอดรูที่เกาะนี้เลยล่ะครับ)
5. Takashima เกาะหน้าตาแปลกประหลาดที่ชาวญี่ปุ่นบางคนให้ฉายาว่า เกาะแว่นตา
ต้องบอกก่อนว่าเกาะเหล่านี้ เราจะได้ดูจากระยะไกลเท่านั้นนะครับ ดังนั้นท่านใดที่เป็นนักถ่ายภาพก็อย่าลืมเตรียมเลนส์ซูมมากันด้วยครับ และขอแถมข้อมูลให้อีกสักนิดด้วยว่า แม้เกาะต่างๆที่เห็นอาจจะไม่ได้ "ว้าว" มากมายนัก แต่เกาะเล็กเกาะน้อยเหล่านี้แหละที่ช่วยให้เมืองต่างๆที่ติดกับอ่าวมัตสึชิมะได้รับความเสียหายจากเหตุสึนามิเมื่อปี 2011 ไม่มากนักเพราะเกาะเหล่านี้เป็นตัวชะลอความแรงของคลื่นที่ซัดเข้ามาแล้วส่วนหนึ่งครับ!!!
แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ
ส่วนกิจกรรมอื่นๆหลังจากที่ล่องเรือจบแล้วก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมักจะจัดโปรแกรมควบคู่กับการล่องเรือเสมอ นั่นก็คือ การชมวิหาร Godaido ซึ่งด้านในมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อยู่ 5 องค์ อย่างไรก็ตาม การเข้าชมด้านในวิหารแห่งนี้ บอกเลยว่า "ยากมาก" เพราะเขากำหนดไว้ว่า จะเปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้ทุก 33 ปีเท่านั้น!!! (สามสิบสามปี) โดยปีล่าสุดที่เปิดคือ 2006 ครับ งานนี้คงต้องรอกันไปอีกยาวๆเลย
ท่านใดที่กำลังเซ็งกับวิหารปิด ไม่ต้องกังวลครับ ใกล้ๆกับวิหารยังมีวัดซุยกันจิ ซึ่งเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีครับ ภายในวัดก็ได้รับการสร้างอย่างเรียบง่ายโดยมีจุดเด่นคือ ทางเดินเข้าวัดที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ขนาบอยู่สองข้างซึ่งทำให้บรรยากาศมีความเข้มขลังขึ้นอีกมากเลยครับ (บริเวณนี้โดนสึนามิถล่มเช่นกัน แต่ความเสียหายมีไม่มากนัก) ภายในวัดจะมีวิหารที่เราสามารถเข้าไปกราบไหว้พระพุทธรูปได้พร้อมชมโรงครัวที่เอาไว้ประกอบอาหารเพื่อถวายพระสงฆ์ครับ ส่วนด้านนอกวิหาร ยังมีถ้ำอยู่อีกหลายแห่ง โดยถ้ำเหล่านี้สมัยก่อนใช้เป็นที่นั่งทำสมาธิครับ ปัจจุบันนี้หลายๆถ้ำจะเอาพระพุทธรูปญี่ปุ่นไปประดิษฐานไว้ตามถ้ำเหล่านี้แทนครับ
และทั้งหมดนี้ก็คือ กิจกรรมสนุกๆสบายๆ ที่อ่าวมัตสึชิมะ จังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่นครับ หวังว่าทุกท่านจะได้ไอเดียและมีข้อมูลเที่ยวจังหวัดมิยางิ กันนะครับ ทั้งนี้ก่อนจากกัน ผมก็ขอโฆษณาสักเล็กน้อยว่า สำหรับท่านใดที่อ่านแล้วอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบทัวร์ส่วนตัวเฉพาะกลุ่มของเรา ไม่มีการแจมกับใคร ก็สามารถคลิกที่นี่เพื่อติดต่อบริษัททัวร์ญี่ปุ่นได้ครับ บริษัทนี้เปิดบริการมาแล้วมากกว่า 12 ปีและให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาแล้วมากมายครับ!! แล้วพบกันใหม่ในสัปดาห์ถัดไป สวัสดีครับ
---------------------------------------------------------
ขอบคุณข้อมูลจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Matsushima
https://www.japan-guide.com/e/e5102.html
ภาพปกจาก https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/44/Kasumi_Coast_Tajima-matsushima.jpg/1024px-Kasumi_Coast_Tajima-matsushima.jpg
ภาพประกอบจาก http://japan-local-guide.com/wp-content/uploads/2015/06/022.jpg
http://japan-local-guide.com/wp-content/uploads/2015/06/012.jpg
https://www.jnto.go.jp/eng/model-route/tohoku/visiting-matsushima-one-of-the-3-most-scenic-spots-in-japan.html
https://www.jnto.go.jp/eng/location/routes/g_route/golden_14.html
https://lifetoreset.wordpress.com/2012/11/08/aboard-the-basho-cruise-shiogama-matsushima-bay-japan/
https://en.wikipedia.org/wiki/Matsushima#/media/File:Senganjima.jpg
https://en.wikipedia.org/wiki/Hayabusa_(train)#/media/File:H5kei_hayabusa_and_E6kei_komachi.JPG
---------------------------------------------------------
ติดต่อโอทารุผู้เขียนบล็อกนี้ได้อย่างไร
เพื่อนๆสามารถร่วมพูดคุยหรือสอบถามเรื่องการท่องเที่ยวญี่ปุ่นกับผมได้ด้วยการพิมพ์ชื่อ Otaru Taichou ในช่องค้นหาของ Facebook แล้วกดเพิ่มเพื่อนครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปกดตกลงเองครับ!
