EasyBlog

This is some blog description about this site
รีวิวพาเดินเที่ยวเมืองโกเบยามค่ำคืน

​สวัสดีครับทุกท่าน ในวันนี้ผมขอพาทุกท่านเปลี่ยนบรรยากาศการท่องเที่ยวเมืองใหญ่ๆอย่างโตเกียวและเมืองโบราณอย่างเกียวโต มาเดินเล่นในเมืองที่เล็กลงมาหน่อยแต่ก็มีกลิ่นอายของความโรแมนติกและมีบรรยากาศที่น่าสนใจในเขตคันไซครับ ใช่แล้วล่ะ บางท่านอาจจะเริ่มเดาได้ เพราะวันนี้ โอทารุจะพาทุกท่านมาเที่ยวชมเมืองโกเบในตอนค่ำนั่นเองครับ!

​ก่อนอื่นขอแนะนำเมืองโกเบเบื้องต้นสำหรับท่านที่เป็นมือใหม่เสียก่อน นั่นคือ โกเบ เป็นเมืองท่าที่มีขนาดใหญ่ แต่ก็มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติมากมาย นอกจากนี้ที่ตั้งของโกเบยังมีการเข้าถึงและเดินทางสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะจากโอซาก้าก็ใช้เวลานั่งรถไฟหรือนั่งรถยนต์ก็ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น แถมมีเนื้อโกเบอันเลื่องชือให้รับประทานกัน นอกจากนี้ยังมีชินคันเซนผ่านเมืองนี้ด้วยก็ยิ่งทำให้เมืองนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกมากขึ้นทุกปีครับ!

​ในวันที่ผมเดินทางมานั้น อากาศค่อนข้างหนาวทีเดียว ประมาณ 11 องศาเซลเซียสครับ แต่บนรถไฟก็เปิดฮีทเตอร์เลยอุ่นหน่อย โดยผมเดินทางมาจากสถานี JR Osaka ครับ รถไฟมีวิ่งตรงมาถึงโกเบรวดเดียว สะดวกมาก (ท่านใดนั่งรถยนต์มาก็สะดวกครับ มีทางด่วนวิ่งผ่านสบายๆ) สำหรับท่านใดที่ใช้รถไฟแบบผมก็ขอให้มาตั้งต้นที่สถานี Sannomiya นะครับ แต่ขอเตือนก่อนว่า ชื่อสถานี Sannomiya มีหลายอันมาก คือ ชื่อเดียวกันแต่เป็นคนละเจ้าของนั่นแหละครับ คือ พูดง่ายๆว่า ชื่อสถานีนี้ เป็นทั้งสถานีรถไฟใต้ดิน รถไฟ JR, รถไฟ Hankyu, รถไฟ Hanshin ดังนั้น ไม่ต้องตกใจครับ นี่เป็นเรื่องปกติของสถานีรถไฟที่ญี่ปุ่น

​จากสถานี Sannomiya ผมได้จองโรงแรม Hotel Okura Kobe ไว้ ซึ่งทางโรงแรมมีรถบัสรับส่งฟรีที่สถานี ผมจึงเดินหาแล้วขึ้นรถบัสของโรงแรมไปเก็บของในโรงแรมก่อนครับ อันนี้หน้าตาห้องพักครับ

​จริงๆ ห้องพักอาจจะไม่ได้ว้าวอะไรมาก แต่พอผมเปิดหน้าต่างเท่านั้นแหละ ที่รีเควสไว้คือ งดงามมากครับ เพราะมันคือวิวของอ่าวโกเบยามค่ำคืนอันสวยงามและถ่ายจากมุมอื่นไม่ได้อีกแล้วครับ ^^ (ท่านใดที่อยากได้มุมนี้ ตอนจองโรงแรมให้ส่งอีเมลไปแจ้งโรงแรมว่า Room with Kobe Bay view นะครับ ก็จะได้ภาพแบบในรูปเลย)

​หลังจากเก็บสัมภาระและถ่ายรูปแล้ว ผมก็เดินออกจากโรงแรมและมุ่งหน้าไปที่ Chinatown ของเมืองโกเบเพื่อเติมพลังมื้อเย็นกันก่อนครับ ขอบอกเลยว่า ปัจจุบันนี้ ที่ญี่ปุ่นจะมี Chinatown อยู่ทั้งหมด 3 แห่ง คือ ที่เมือง Yokohama, Kobe และ Nagasaki เท่านั้น แน่นอนว่าขึ้นชื่อเป็นเยาวราชของญี่ปุ่นก็ไม่พ้นอาหารจีนนี่ล่ะครับ ว่าแล้วผมก็เดินเท้าจากโรงแรมโดยใช้เวลาราวๆ 10 นาทีเท่านั้น ก็ได้พบกับบรรยากาศจีนๆภายใต้ป้ายร้านอาหารที่มีหน้าตาของอาหารจีนอยู่ในตู้โชว์พร้อมเมนูที่เขียนภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ (บางร้าน) ส่วนบางร้านก็เล่นขายซาลาเปาลูกโตๆหน้าร้านพร้อมส่งกลิ่นหอมยั่วยวนคนเดินผ่านไปมาด้วย ที่แน่ๆ เนื้อโกเบที่นี่ก็มีขายนะครับ แต่เท่าที่ดูจะออกเป็นแนวๆ ผัดสไตล์ญี่ปุ่นมากกว่า ทั้งนี้ หากเดินต่อไปจากโซนที่เป็นศาลาจีนแล้วก็จะเป็นถนนแบบ Arcade ที่มีหลังคาคลุมพร้อมร้านอาหารหรือร้านขายของเรียงรายไปยาวๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่นทีมีทุกเมืองครับ (แต่ตอนผมไปถึงก็สองทุ่มกว่าละ ร้านรวงทยอยปิดกันก็เลยเดินโฉบๆพอ

เดินไปสักพัก...หิวครับ! ก็เลยส่องร้านอาหารจีนสักร้านที่ราคาพอใจแล้วก็เข้าไปลอง ก็ปรากฎว่าเป็นร้านเล็กๆร้านนึงมีเซทอาหารเย็นขาย อาเจ๊เจ้าของร้านเป็นคนญี่ปุ่นที่มีสามีเป็นคนจีนครับ (อาเจ๊พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย มีเดินมาถามด้วยว่า มาจากประเทศไหนกัน พอบอกเป็นคนไทยเขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ) 

​พอเติมพลังกันแล้ว ผมก็เดินออกมาจากร้านและมุ่งหน้าไปที่ริมอ่าวโกเบเพื่อชมวิวยามค่ำครับ ว่ากันว่า ที่ริมอ่าวนี้มีบรรยากาศโรแมนติกมากๆ เหมาะกับการมาเดินเล่นกับคู่รักครับ โดยจากแถว Chinatown แล้วเดินกลับไปที่ริมอ่าวโกเบ (ผมจะเริ่มตั้งต้นจาก Kobe Tower ครับ) ก็ใช้เวลาอีกราวๆ 10 นาทีเท่านั้น และเมื่อมาถึง Kobe Tower แล้ว ก็แปลว่าตอนนี้เราอยู่ริมทะเลกันแล้วล่ะครับ ^^ ลมเย็นมากๆ ใครขี้หนาวก็แต่งตัวมาดีๆ หาเสื้อกันลมมาด้วยนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนนะ

บริเวณริมอ่าวโกเบในวันนั้น มีเรือจอดอยู่ประปรายและมาพร้อมกับสายลมเย็นๆที่ยังทานทนได้ แต่วิวโอเคเลยนะครับ ถ้าได้จับมือมากับคนรักแล้วเดินด้วยกันผมก็เห็นด้วยว่าบรรยากาศมันให้อยู่นะ เพราะตลอดทางเดินเลียบอ่าว 500 เมตรนั้น มันจะเป็นโค้งให้ไล่เรื่อยๆ สุดทางเราก็จะพบกับอาคาร MOSAIC ซึ่งเป็นร้านอาหารซะส่วนใหญ่ครับ (มีร้านบุฟเฟ่ต์ปูที่นี่ด้วยนะ แต่คนเยอะมากกกกกกกกกกก) ผมเองก็เดินเล่นดูร้านรวงไปเรื่อยๆและแวะเข้าห้องน้ำครับ 555 อากาศหนาวก็ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยอ่ะนะ จากนั้นก็ลงมาทีลานโล่งหน้าอาคารจะเป็นที่จอดเรือคอนแชร์โต้ซึ่งถ้าเป็นช่วงเวลาปกติก็จะมีบริการอาหารบนเรือด้วยครับ ทว่าเวลามืดค่ำแบบนี้ก็ใช้เป็นจุดถ่ายภาพสัญลักษณ์ของโกเบได้เลย ซึ่ง...มุมมหาชนในคืนนี้ ผมก็ถ่ายเก็บเอาไว้เช่นกัน ^^

​เมื่อเดินเสร็จจากตรงนี้ ผมเองก็เดินกลับโรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกลครับ เพราะตอนนั้นก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว ยังไงก็ควรกลับห้องเพื่อพักผ่อนตุนแรงไว้เที่ยววันต่อไป อีกอย่างแม้ญี่ปุ่นจะปลอดภัยแต่เราก็ไม่ควรประมาทนะครับ!

สำหรับท่านใดที่ต้องกลับโอซาก้า จาก MOSAIC ให้เดินอ้อมด้านหลังตึกแล้วเลียบถนนไปที่สถานีรถไฟ KOBE ได้ (มีทั้งใต้ดินและ JR Kobe) ทั้งนี้ ท่านสามารถนั่งรถไฟจากที่นี่กลับ JR Osaka ได้เลย หรือจะนั่งไปลง Sannomiya แล้วค่อยต่อรถไฟกลับย่าน Namba หรือ Shinimamiya อีกทีสำหรับท่านที่พักในย่านนั้นก็ได้เช่นกันครับ

​หลังจากที่หลายๆท่านอาจบล็อกนี้จบแล้ว ผมก็หวังว่าทุกท่านจะได้เห็นภาพรวมและบรรยากาศของเมืองโกเบบริเวณริมอ่าวกันนะครับ รับรองว่าสวยงาม บรรยากาศดีมีความปลอดภัยครับ นอกจากนี้เมืองโกเบยังมีสถานที่ที่น่าสนใจและเหมาะกับการท่องเที่ยวอีกมากมายซึ่งหากมีเวลาก็แนะนำให้เที่ยวเพิ่มเติมนะครับ อย่างไรก็ตาม หากท่านใดที่อ่านแล้วยังรู้สึกว่าหากมาเที่ยวเองก็เกรงว่าจะหลงทางหรือขึ้นรถไฟผิดขบวน หรืออยากเที่ยวแบบมีไกด์ส่วนตัวพร้อมรถยนต์และคนขับ ผมก็ขออนุญาตแนะนำทัวร์ส่วนตัวเที่ยวโอซาก้าและโกเบครับ เป็นทัวร์ส่วนตัวเที่ยวญี่ปุ่นที่จัดเฉพาะกรุ๊ปของเราเท่านั้นครับ และสำหรับบล็อกนี้ก็มีเนื้อหาพารีวิวเพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ในบล็อกถัดไปคร้าบบบ

​ภาพปกจาก flickr และภาพเนื้อโกเบจาก savorjapan

ภาพที่เหลือเป็นของโอทารุทั้งหมด ห้ามผู้ใดนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาต

แนะนำโรงแรม 5 ดาวเตรียมเปิดใหม่ติดสถานี JR Kyoto
คนรักฟูจิปลื้ม! JR เตรียมเปิดเส้นทางรถไฟวิ่งตรงสู่...