ในสัปดาห์นี้โอทารุขอนำทุกท่านไปที่กรุงโตเกียวเพื่อพาไปชมสถานที่ unseen แห่งหนึ่งที่ยังมีคนรู้จักไม่มาก แต่รับรองว่ามีความน่ารักและเป็นเอกลักษณ์แบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่นมากๆครับ นั่นก็คือ วัด Gotokuji หรือเรียกเล่นๆกันว่า วัดแมวกวัก นั่นเองครับ ^^
แมวกวักเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี มีเงินทองมากมายหรือมีลูกค้าเข้าร้านไม่ขาดสายซึ่งทุกวันนี้แมวกวักได้รับความนิยมไปทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย ส่วนประวัติความเป็นมาของแมวกวักนั้น ปัจจุบันมีตำนานเล่ากันหลายกระแสซึ่งส่วนใหญ่จะมีขึ้นในยุคเอโดะซึ่งเป็นยุคที่ญี่ปุ่นไม่มีสงครามขนาดใหญ่แบบสมัยเซ็นโกกุอีกแล้ว
ก่อนอื่นผมขอเล่าถึงประวัติความเป็นมาของวัดนี้ ซึ่งมีความเกียวข้องกับแมวกวักพอสังเขปดังนี้
ว่ากันว่าวัด Gotokuji แห่งนี้เดิมเป็นวัดธรรมดาๆในเมืองเอโดะ (ชื่อเรียกโตเกียวสมัยก่อน) แต่วัดนี้มีตำนานที่น่าสนใจว่า ครั้งหนึ่ง ไดเมียว(เจ้าเมือง)แคว้นฮิโกเนะ (จังหวัดชิงะในปัจจุบัน) ได้เดินทางมาราชการในเอโดะแล้วเดินทางผ่านวัดนี้ ปรากฏว่าพอเดินผ่านที่วัดก็ได้พบกับแมวตัวหนึ่งที่เข้ามาออดอ้อนให้ท่านไดเมียวเดินเข้าไปในวัด ซึ่งท่านไดเมียวก็ตามเข้าไปจากนั้นจู่ๆก็มีพายุพัดเข้ามา แต่ท่านไดเมียวซึ่งเข้าไปในวัดก็ไม่ได้เปียกปอนหรือได้รับอันตรายอะไรจากพายุทำให้เขาซาบซึ้งใจแมวตัวนั้นพร้อมกับรวบรวมเงินมาบูรณะวัดแห่งนี้พร้อมตั้งให้เป็นวัดประจำตระกูลและให้ชื่อว่า Gotokuji ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
การเดินทาง : ให้มาอยู่ย่อหน้าแรกๆเลยจะได้เปิดเจอกันง่ายหน่อย โดยผมขออธิบายขั้นตอนดังนี้
1.เริ่มต้นที่สถานีรถไฟ Shinjuku ให้มองหาโซนที่เป็นของรถไฟเอกชน ชื่อ Odakyu (ไม่ใช่ JR นะครับ อย่าสับสน)
2.ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อซื้อตั๋วโดยสารหรือใครมี IC Cards ก็แตะเข้าระบบไปเลย
3.นั่งรถไฟ Odakyu สาย Odawara Line ลงที่สถานี Gotokuji
4.เมื่อลงมาที่สถานี Gotokuji แล้ว ตรงทางออกจะมีรูปปั้นแมวกวักตั้งอยู่ ให้หันขวาแล้วเดินมาทางถนนเล็กๆ อีก 80 เมตรจะเจอสถานีรถรางชื่อสถานี Yamashita จากนั้นให้ยืนรอรถรางในทิศทางที่มุ่งหน้าไป Sengenjaya
5.นั่งรถรางมาลงที่สถานี Miyanosaka (แค่ป้ายเดียวจาก Yamashita) จากนั้นเดินไปอีก 300 เมตรจะเจอประตูวัด Gotokuji
*กรณีที่จะเดินจากสถานี Gotokuji โดยไม่ใช้รถราง ให้เริ่มต้นจากรูปปั้นแมวกวักแล้วเลี้ยวซ้าย ตรงมาเรื่อยๆตามแนวรถรางแล้วเข้าซอยเล็กๆตามทาง สักพักจะเจอกำแพงวัด แล้วให้เดินเลียบแนวกำแพงมาเข้าด้านหน้าเช่นเดียวกัน (ไม่แนะนำให้เดิน ถ้าไม่มี GPS เนื่องจากต้องเข้าซอยเล็กๆหลายครั้ง อาจหลงได้ครับ)
เมื่อเข้ามาด้านในวัดแล้ว เดินตรงเข้ามาจะเจอกับวิหารหลังใหญ่อยู่ด้านใน ส่วนทางขวามือจะเป็นหอระฆัง ทางซ้ายมือเป็นเจดีย์ไม้ครับ ตัวผมก็เดินไปที่วิหารเพื่อไหว้พระก่อน จากนั้นเดินมาทางซ้ายจะมีทางเดินเล็กๆให้เข้าไปที่วิหารอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่แต่สังเกตดีๆจะเห็นแมวกวักสีขาวขนาดต่างๆ ตั้งอยู่หน้าวิหารหรือตามช่องหน้าต่างครับ
เดินเข้าไปไม่กี่อึดใจ ผมก็ร้องว้าวออกมาเลย เพราะข้างๆวิหารนี้มีแมวกวัดขนาดน้อยใหญ่อยู่เป็นจำนวนมากมายจริงๆครับ ใครพกกล้องมาก็ถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลินได้เลยตามสะดวกครับ หรือจะดูรูปจากโอทารุด้านล่างนี้ก็ได้จ้า
หลังจากที่สนุกสนานกับความน่ารักของเหล่าแมวกวักน้อยใหญ่ที่มีผู้คนมาถวายแล้ว ผมก็เดินเข้ามาอีกหน่อยก็จะเป็นกลุ่มสุสานจำนวนมากและมีพระพุทธรูปหินอยู่เป็นระยะ ส่วนเจดีย์สูงๆที่อยู่ใกล้กับสุสานก็ถือว่ามีความสวยงามและมีเอกลักษณ์เป็นแมวกวักเฉพาะตัวจริงๆครับ
พอมาถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่าหลายๆท่านน่าจะ "เดินออกจากวัด" แต่โอทารุยังเดินสำรวจที่พระอุโบสถของวัดต่อ ซึ่งด้านในก็มีบรรยากาศที่เงียบสงบและขลังๆสไตล์ญี่ปุ่น (คือ ไม่ค่อยมีอะไรประดับตกแต่งมากนัก) เน้นเรียบๆ สมถะครับ และก่อนที่จะเดินออกจากวัด ผมขอบอกเลยว่า "อย่าลืมแวะที่สำนักงานของวัด" เพราะที่นี่เป็นสถานที่ให้ "เช่าบูชาแมวกวัก" คือ อยากบอกว่ามีวัตถุมงคลให้เลือกเยอะมาก เช่น แผ่นไม้ขอพร ตุ๊กตาแมวกวักขนาดต่างๆ ยันต์ และเครื่องราง ราคาก็ไม่ได้แพงระเบิดระเบ้อเว่อร์วัง มีเงิน 200-300 บาทก็เช่ากลับบ้านได้แล้วล่ะ น่ารักมากๆ ขอบอก ^^
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวัดนี้ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาชมมากมายนัก ภาษาอังกฤษของเจ้าหน้าที่จะไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ผมจึงขอแนะนำให้พก Application แปลภาษาหรือบทสนทนาภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้นไว้กับตัวสักหน่อยจะช่วยได้เยอะ ทั้งนี้ ไม่ต้องกังวลจนเกินไปนะครับเพราะเจ้าหน้าที่ของวัดจะพยายามแนะนำเราด้วยความเต็มใจอย่างแน่นอน
และแล้วเมื่อได้วัตถุมงคลกลับบ้าน ผมก็เตรียมเดินทางออกจากวัด (ที่นี่ห้องน้ำสะอาดมาก เข้าได้เลย) เพื่อนั่งรถราง+รถไฟกลับไปที่สถานี Shinjuku ตามเดิมครับ แน่นอนว่า การเดินทางแม้จะสิ้นสุดลงสำหรับวัดแห่งนี้ แต่เรื่องราวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นนั้น ผมก็จะทยอยเขียนมาให้ท่านผู้อ่านทราบกันเป็นประจำทุกสัปดาห์เช่นเคย แล้วพบกันใหม่ครับ!
สำหรับท่านใดที่เห็นว่า อยากมาเที่ยวโตเกียวแต่กลัวหลงทางหรือกลัวไม่ได้รับความสะดวกเรื่องการเดินทาง แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อยากได้ทัวร์ที่รวมกลุ่มกับคนอื่นก็สามารถติดต่อทัวร์ส่วนตัวเที่ยวโตเกียวได้ครับ บริษัทนี้มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ชินจุกุและปัจจุบันมีพนักงานคนไทยพร้อมให้บริการครับ
ประวัติของวัดจากแผ่นพับของทางวัด
ภาพปกจาก flickr
ภาพประกอบทั้งหมดจากกล้องของโอทารุครับ
