EasyBlog

This is some blog description about this site
รีวิวโรงแรม Sunroute Plaza Nagoya : ราคาประหยัดจัดว่านอนสบาย

ในสัปดาห์นี้โอทารุจะขอพาทุกท่านไปชมการรีวิวโรงแรม 3 ดาวราคาประหยัดที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังจะมาเที่ยวเมืองนาโงย่ากันครับ รีวิวนี้บอกก่อนว่า "เขียนจากประสบการณ์ที่ตัวเองไปพักล้วนๆ ไม่มีใครจ้างเขียน ดังนั้น อะไรดีไม่ดี ผมบอกหมดครับ" เอาล่ะ เลื่อนลงมาอ่านกันเถอะครับ ^^

โรงแรมที่ผมจะมารีวิวในวันนี้ ตั้งอยู่ที่เมืองนาโงย่าครับ บอกก่อนว่าจริงๆแล้วโรงแรมนี้เป็น ฺBusiness Hotel คือ ออกแนวโรงแรมสำหรับนักธุรกิจที่เอาไว้ใช้สำหรับติดต่องานหรือพักค้างคืนสองคืนเพื่อมาทำงาน ไม่ได้ไว้พักผ่อนจริงจังมีสระน้ำหรือร้านรวงเลิศหรูครับ และชื่อโรงแรมที่ผมจะมารีวิวก็คือ Hotel Sunroute Plaza Nagoya ครับ!

ที่ตั้ง

-อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ JR Nagoya ประมาณ 600 เมตร ใช้เวลาเดินแบบมนุษย์ปกติก็จะอยู่ที่ประมาณ 10 นาที

-อยู่ห่างจากทางออก 10 ของรถไฟใต้ดินสาย Higashiyama Line ประมาณ 240 เมตร 

-อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Meitetsu Nagoya ประมาณ 700 เมตร ใช้เวลาเดินราวๆ 12 นาที

ส่วนตัวของผมๆมาจากสนามบินจูบุ เซนแทร์ครับ ซึ่งเป็นของ Meitetsu พอเราออกมาจากสถานีรถไฟที่ประตูทางออกหลักให้เลี้ยวซ้ายแล้วเดินตรงอย่างเดียว ถ้าใครยังไม่เคยมานาโงย่าจะรู้สึกว่าลากกระเป๋าปุเลงๆไปไกลจัง แต่จริงๆไม่ไกลเท่าไหร่ครับ แค่ความรู้สึกเราคิดไปเอง

ตึกซ้ายมือครับ โรงแรมของเรา

จากนั้นผมก็สังเกตสิ่งรอบตัวว่ามีร้านค้าหรืออะไรที่พอจะมีประโยชน์กับการรีวิวได้ ก็ได้พบว่ามีสามอย่างที่น่าสนใจคือ หน้าโรงแรมมีร้านสะดวกซื้อ Circle K อยู่ครับ ใครที่ไม่ได้จองห้องพักแบบรวมอาหารเช้าก็ซื้อไปทานบนห้องแบบผมได้ครับ อย่างที่สองคือ มีบริษัทเช่ารถอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมครับ ใครจะเช่าขับไปเที่ยว Takayama หรือ Shirakawago ก็จัดไปและอย่างสุดท้าย คือ ปั๊มน้ำมันเชลล์ซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงแรมเลย ใครจะคืนรถก็เติมน้ำมันตรงนี้ได้เลย ตรงข้ามโรงแรมสบายใจ ^^

สภาพของโรงแรม

ตรงล็อบบี้ก็ใหญ่โตพอสมควรนะครับ มีร้านอาหารให้ทานด้วย อาหารเช้าก็ต้องมาทานที่นี่แหละ (ถ้าตอนจองมี breakfast น่ะนะ หรือไม่ก็จ่ายเพิ่มหน้างาน) ส่วน Front ก็ใหญ่โตรับแขกได้ทีละสามแถวเลยล่ะ ส่วนพนักงานก็พูดภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานได้ครับ สบายใจได้ (ไม่ต้องเล่นคำหรือแกรมม่านะ ขอร้อง)

และใครที่มาถึงก่อนเวลาเช็คอินก็สามารถฝากกระเป๋าได้เช่นกัน ที่ฝากค่อนข้างใหญ่ทีเดียว จากนั้นคุณจะไปเดินเที่ยวที่ไหนก็ได้แล้วค่อยกลับมาเช็คอินครับ โอทารุก็ทำยังงั้นแหละ เพราะมาถึงโรงแรมตั้งแต่สิบเอ็ดโมง ขอไปเที่ยวเล่นก่อนดีกว่า อิอิ

สภาพห้องพัก

ผมจองห้องพักแบบ Single Room ครับ ขนาดห้องจะอยู่ที่ 12 ตารางเมตร สำหรับห้อง Single ราคา(ตอนที่ผมไปพัก) คิดราคาราวๆ 1,890 บาท (ไม่รวมอาหารเช้าครับ) ส่วนใครจะนอนแบบสองคนก็มีห้อง Double Room ให้จองซึ่งจะมีพื้นที่ใหญ่กว่าหน่อยที่ 15 ตารางเมตร คิดราคาประมาณ 2,800 บาท (ไม่รวมอาหารเช้าเช่นกัน) ครับ ว่าแล้วก็ชมภาพห้องพักกันครับ

สภาพห้องของผมโดยรวมถือว่าโอเค เพราะผมเน้นส่วนตัวอยู่แล้ว ไม่ชอบนอนรวมน่ะครับ ห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกก็เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น คือ จะเล็กๆ กะทัดรัด แต่ครบ เช่น โต๊ะเขียนหนังสือ ทีวี แอร์+ฮีทเตอร์ ตู้เย็น ไดร์เป่าผม กาต้มน้ำร้อน slippers กระดาษทิชชู่ โทรศัพท์ ที่สำคัญ ที่นี่ FREE WIFI ครับ ความเร็วก็โอเคเลยล่ะ Line Call คนทางเมืองไทยได้ราบรื่นแน่นอน 

สำหรับห้องน้ำก็ถือว่ามีพร้อมทั้งสบู่ แชมพู ครีมนวด แถมมีสบู่ไว้ล้างหน้าของ Shiseido ด้วยล่ะ ผมช๊อบชอบ 555 นอกจากนี้ยังมีส้วมอัตโนมัติพร้อมระบบฉีดบั้นท้ายที่นุ่มสบายและอ่างอาบน้ำกะทัดรัดที่จะแช่เท้าหรือลงไปแช่ทั้งตัว (ได้คนเดียว) ก็สามารถทำได้สบายครับ!

ทั้งนี้ขอแถมว่า ที่โรงแรมในญี่ปุ่นส่วนใหญ่ (ถ้าคุณผู้อ่านไม่รังเกียจ) จริงๆไม่ต้องเอาชุดนอนมาก็ได้นะครับ ที่โรงแรมญี่ปุ่นมาตรฐานเขาจะเตรียมชุดนอนไว้ให้ บางทีถ้าเป็นเรียวกังก็ใส่ยูกาตะนอนไปเลย ใครชอบแพคของเยอะๆก็ไม่ต้องกังวลมากก็ได้ ลดโหลดกระเป๋าได้อีกพอสมควรและที่โรงแรม Sunroute ก็มีชุดนอนให้ใส่เช่นกันครับ ^^

สภาพนอกห้องพัก

ขอสารภาพว่าไม่ได้ถ่ายรูปนอกห้องพักไว้ แต่จะบอกว่าห้องพักบางชั้น (ชั้น 5,8 และ 11) จะมีตู้กดน้ำอัตโนมัติอยู่ในโรงแรมเลย ไม่ต้องฝ่าลมหนาวออกไปกดข้างนอกก็ได้ แต่ความสบายก็แลกมาด้วยราคาน้ำที่แพงกว่าข้างนอกด้วยครับ ส่วนใครที่พักยาวๆก็มีเครื่องซักผ้าให้ใช้บริการเช่นกัน ยังไงลองไปศึกษาเรื่องซักผ้าดูนะครับ เพราะผมก็ซักมือเอาเองมากกว่าครับ 

สิ่งที่พบเจอก่อนนอน

คืนนั้นก็เหนื่อยๆครับ ผมกลับมาจากย่าน Sakae แล้วก็อาบน้ำ ปรากฎว่า สักประมาณสี่ทุ่มกว่า โอ้ยยยย ได้ยินภาษาที่คุ้นหูมาก "หว่อๆ ปู้ๆ ล่าๆๆ หม่าๆๆ@$#%^" ตะโกนคุยกันเสียงดังลั่นชั้น (ผนังแอบบางนะเนี่ย) ยังดีที่ตอนนั้นยังไม่นอน ครั้นจะเปิดประตูออกไปก็พูดไม่เป็น โชคดีที่สักพักเสียงภาษาดังกล่าวก็เงียบลง สาธุๆ ส่วนเสียงรถยนต์นั้น ไม่ได้ยินเท่าไหร่ครับ ขนาดห้องผมอยู่ฝั่งติดถนนนะ ส่วนแอร์ในห้องก็ทำงานเงียบดี แน่นอนว่าสักพักผมก็หลับสบายจนถึงเช้าเลยครับ และก็ตื่นมาทานซูชิที่ซื้อมาเมื่อคืนก่อนจะลงไปเช็คเอาท์และเดินทางต่อไปที่ Takayama ครับ ^^

สรุปข้อดี/ข้อเสีย

ข้อดี 

1. ผมมองว่า ราคาไม่แพงเท่าไหร่สำหรับโรงแรมที่อยู่ในระยะเดินจากสถานีรถไฟหลักอย่างนาโงย่า ซึ่งมีทั้งชินคันเซนและรถไฟใต้ดินกับของเอกชนอย่างรถไฟ Meitetsu และรถไฟ Kintetsu ครับ แต่ถ้าท่านมีงบแค่ "หลักร้อย" ผมบอกตรงๆว่า แถวสถานีหายากหน่อย ต้องนอน Hostel หรือ Guesthouse ดีกว่า ที่พักที่ผมว่าจะอยู่ฝั่งตะวันตกของสถานีครับ

2. ระยะเดินพอไหวจากสถานีรถไฟหลัก ไม่ต้องเปลี่ยนสายเปลี่ยนสีเปลี่ยนฝั่งให้ปวดหัวมากนักแถมยังมีร้านเช่ารถให้ขับอยู่ใกล้ๆอีกต่างหาก

3. ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงหน้าโรงแรม คือ ใครเคยมาญี่ปุ่นจะรู้ครับว่า ร้านสะดวกซื้อของประเทศนี้ "กินขาด" หลายๆประเทศ อาหารบางอย่าง บอกตรงๆว่าอร่อยกว่าร้านที่ต้องมานั่งรอเสิร์ฟอีก เรื่องจริงครับ ถ้าใครเคยมาเที่ยวญี่ปุ่นจะรู้ ยิ่งอยู่หน้าโรงแรมแบบนี้ บางทีอาหารโรงแรมที่แพงกว่าก็อาจไม่ถูกใจเราด้วย ก็ไปลงร้านสะดวกซื้อดีกว่า ตัวเลือกมากมายก่ายกองครับ

4. เช็คเอาท์ได้ตอน 11 โมง คือ ต้องเข้าใจว่าบางโรงแรมหรือเรียวกังในญี่ปุ่นมักจะกำหนดให้เช็คเอาท์ตอน 10 โมงเช้านะครับ ที่นี่ถือว่าใจดีมากแล้วล่ะที่ให้ 11 โมง

ข้อเสีย

1. ผนังห้องบาง บอกกันตรงๆ ถ้ามีเสียงคนทะเลาะกัน/เล่นหนังสด/เปิดทีวีเสียงดัง คงได้ยินหมดแน่ (แต่ถ้าทุกคนเงียบหมด บรรยากาศก็หลับสบายนะครับ)

2. ขนาดห้องไม่ใหญ่โตสำหรับมือใหม่ คือ ข้อนี้ใครยังไม่เคยมาเที่ยวญี่ปุ่นคงหน้าเบ้กับห้องขนาด 12 ตารางเมตร เพราะความเคยชินในบ้านเราหรือประเทศอื่นที่กว้างใหญ่ แต่ที่ญี่ปุ่นโรงแรม 3 ดาวก็ขนาดราวๆ 10-15 ตารางเมตรกันทั้งนั้นแหละครับ ผมเคยเจอแย่สุดก็ 9 ตารางเมตรด้วยซ้ำ ส่วนขนาดกว้างดีหน่อย เคยเจอ 20 ตารางเมตร (แต่แค่ที่เดียว) ดังนั้น ถ้าคุณเป็นมือใหม่ ทำใจเลยครับว่าห้องมันก็ประมาณนี้ ยกเว้นคุณจะจ่ายโรงแรมที่ดาวสูงกว่านี้หรือไม่ก็ไปลุ้น AirBNB เอาครับ ห้องใหญ่จริง แต่เช็คประวัติโดนเทกันให้ดีก็แล้วกันเน้อ

สำหรับโอทารุเอง ผมขอสรุปปิดท้ายอีกทีว่า โรงแรมนี้ผมให้สามผ่านแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก มันอาจจะเดินไกลตอนเดินหาโรงแรมครั้งแรก แต่พอรู้ทางแล้วเดินแป็บเดียวเองจริงๆ เพราะเดินง่ายมากเป็นเส้นตรงครับ โอกาสหลงยากมากๆ ราคาโรงแรมก็ดี เอาเป็นว่าใครอยากมาลองพักดูเวลามาเที่ยวนาโงย่าผมว่าก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่เลวนะครับ แล้วพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้า สวัสดีหน้าหนาวญี่ปุ่นครับ!!!

------------------------------------------------------------

ภาพปกจาก https://media.sabrecdn.com/sunroute/application/files/2014/9141/4322/I-HT-plaza-nag-twin.jpg

ภาพที่เหลือจากกล้องของโอทารุ มีการลงลายน้ำไว้เรียบร้อย ท่านใดจะนำไปใช้กรุณาขออนุญาตผมก่อนนะครับ!

------------------------------------------------------------

ติดต่อโอทารุผู้เขียนบล็อกนี้ได้อย่างไร

 

ผู้ที่สนใจสอบถามเรื่องเส้นทางการท่องเที่ยวญี่ปุ่น สามารถเข้ามาพูดคุยกันได้ทาง Facebook ครับ พิมพ์ชื่อ Otaru Taichou ที่ช่องค้นหาแล้วกด add friend เดี๋ยวผมจะเข้าไปกดตกลงรับเป็นเพื่อนเองครับ

  

Doctor Yellow : ยอดคุณหมอสีเหลืองของรถไฟชินคันเซ็น
ข่าวร้าย! ญี่ปุ่นเล็งเก็บภาษีเพิ่มเติมจากนักท่องเท...