ในสัปดาห์นี้โอทารุขอเอาใจเพื่อนๆผู้มีหัวใจอาร์ต (ศิลปะ) กันครับ เพราะว่าสัปดาห์นี้ผมมีข่าวเกี่ยวกับการเปิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งใหม่ในกรุงโตเกียวซึ่งเชื่อว่าผู้รักศิลปะไม่ควรพลาดครับ เอาล่ะ มาติดตามเนื้อหากันได้เลยครับ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นับเป็นพิพิธภัณฑ์ล่าสุดในโตเกียวที่มีกำหนดเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2018 เป็นต้นไป ที่อาคาร Palette Town เกาะโอไดบะ กรุงโตเกียวครับ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีชื่อเต็มอย่างเป็นทางการว่า Mori Building DIGITAL ART MUSEUM:teamLab Borderless
สำหรับศิลปะที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเน้นไปที่ศิลปะแบบไร้ขอบเขต (borderless) โดยมีสีสันและการจัดแสดงในรูปแบบที่แหวกแนวภายในพื้นที่ 10,000 ตารางเมตรพร้อมการรังสรรค์จากคอมพิวเตอร์ 520 เครื่องและโปรเจคเตอร์อีก 420 ตัวซึ่งทางผู้จัดมั่นใจว่ายังไม่เคยมีที่ใดทำแบบนี้มาก่อน ส่วนกิจกรรมศิลปะที่เตรียมมาจัดแสดงนั้นมีหลายโซน ดังนี้
1. Borderless World
-โซนนี้จะปล่อยให้ผู้เข้าชมมีความรู้สึกล่องลอยไปกับจินตนาการอันไร้ขอบเขตและสื่อถึงผลงานที่ไม่มีรูปร่างที่แน่นอนซึ่งจะเปลี่ยนไปตามสภาพของโลกรวมทั้งผู้คนที่เดินผ่านไปมาในสถานที่แห่งนี้ รวมทั้งมีการเล่นสีสันของอีกาที่บินผ่านฉากพร้อมกับเส้นสีที่บิดตามทิศทางของเหล่าอีกา
2. Athletics Forest
-เป็นโซนที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมสมองของมนุษย์ในเรื่องการความเข้าใจความเป็นไปของโลกใบนี้พร้อมผลักดันให้มนุษย์มองสิ่งต่างๆในโลกนี้ให้มีหลากมิติ โดยบริเวณนี้จะมีการวางหลุมบ่อหรือที่ห้อยโหนในรูปแบบที่หลากหลายพร้อมสื่อให้เห็นถึงศิลปะในมุมมองใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น
3. Future Park
-เป็นโซนที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านศิลปะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบโดยเฉพาะเด็กๆ โดยอาศัยบรรยากาศภายในพื้นที่ให้ผู้เข้าชมเกิดความรู้สึกในด้านบวกพร้อมกับส่งส่งเสริมให้กระบวนการคิดของมนุษย์นั้นมีประสิทธิภาพตลอดจนลดอัตราการติดสมาร์ทโฟนให้ลดน้อยลง
4. Forest of Lamps
-โซนที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับการส่งผ่านแสงสีจากโคมไฟต่างๆเป็นทอดๆตามจังหวัดที่ผู้เข้าชมก้าวเดินพร้อมแบ่งตัวไปเรื่อยๆจนกระทั่งย้อนกลับมาที่โคมไฟแรกที่ผู้เข้าชมเริ่มเดิน
5. EN Tea House
-ตื่นตาตื่นใจกับการเทคนิคพิเศษในการสร้างดอกไม้ให้บานบนถ้วยชาและเมื่อมีการเคลื่อนย้ายถ้วยชาเหล่านี้ ใบของมันก็จะร่วงหล่นและกระจายออกนอกถ้วยชาพร้อมกับเกิดวัฎจักรใหม่ตราบใดที่ยังมีน้ำชาอยู่ในถ้วย นอกจากนี้ดอกไม้ที่จะบานในถ้วยชานั้นก็ถูกออกแบบให้มีความสอดคล้องกับฤดูกาลของญี่ปุ่นในช่วงที่เข้าชมด้วย ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของดอกไม้ที่ร่วงหล่นนั้นก็มีความโดดเด่นเพราะไม่ใช่การใช้โปรแกรมที่อัดซ้ำแต่เป็นโปรแกรมที่ทำแบบ real time และไม่สามารถลอกเลียนแบบได้
-สร้างวงแหวนแห่งศาสนาเซน (Enso) โดยการวาดวงกลมด้วยแปรงสีที่ลวดลายสามารถค้างอยู่กลางอากาศแต่ผู้เข้าชมสามารถมองเห็นมุมวาดที่แตกต่างกันในระหว่างการวาด ซึ่งการวาดในลักษณะเช่นนี้สามารถสื่อได้ถึงความหมายทางปรัชญา ความสุขุมนุ่มลึก ความเร็วและพลังของผู้วาด สำหรับวงกลมในความหมายของศาสนาเซนโดยทั่วไปจะสื่อความหมายถึงทางสู่การนิพพาน การพบทางแห่งการรู้แจ้งหรือความจริง สภาพแห่งจักรวาลและความเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ยังสื่อถึงจิตใจของผู้วาดซึ่งมีความหลากหลายแล้วแต่จะตีความจากแต่ละบุคคลด้วย
และทั้งหมดที่กล่าวมานั้นก็คือ พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่สำหรับคนสายอาร์ตครับ ดูภาพแล้วก็น่าไปลองชมกันสักครั้งเหมือนกันนะครับ เพราะญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งในชาติที่ได้ชื่อว่ามีเทคโนโลยีสูงและสร้างสรรค์ศิลปะได้แหวกแนวเสมอ ว่าแล้วก็ขอให้เพื่อนๆผู้อ่านปักหมุดกันไว้ด้วยนะครับ และก่อนจากกันในวันนี้ ก็ขอฝากข้อมูลการเดินทางมาที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ให้ทราบเป็นข้อมูลครับ ^^
การเดินทาง
1. นั่งรถไฟไร้คนขับ Yurikamome จากสถานี Shimbashi มาลงที่สถานี Aomi แล้วเดินเข้าอาคาร Palette Town
2. นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote มาลงที่สถานี Osaki แล้วนั่งรถไฟสาย Rinkai มาลงที่สถานี Tokyo Teleport แล้วเดินเข้าอาคาร Palette Town ต่อไป
ช่วงเวลาเข้าชม
-วันจันทร์-พฤหัส 11:00-19:00 น.
-วันศุกร์และวันก่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:00-21:00 น.
-วันเสาร์ 10:00-21:00 น.
-วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10:00-19:00 น.
ค่าเข้าชม
-ผู้ใหญ่, เด็กมัธยมและมหาวิทยาลัย 3,200 เยน
-เด็กนักเรียนอนุบาลถึงประถม 1,000 เยน
-เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ "เข้าฟรี"
---------------------------------------------------------
ข้อมูลและภาพประกอบทั้งหมดจาก https://borderless.teamlab.art/
---------------------------------------------------------
ติดต่อโอทารุผู้เขียนบล็อกนี้ได้อย่างไร
เพื่อนๆสามารถร่วมพูดคุยหรือสอบถามเรื่องการท่องเที่ยวญี่ปุ่นกับผมได้ด้วยการพิมพ์ชื่อ Otaru Taichou ในช่องค้นหาของ Facebook แล้วกดเพิ่มเพื่อนครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปกดตกลงเองครับ!