สวัสดีครับเพื่อนๆผู้อ่านทุกคน สำหรับวันนี้ โอทารุจะพาทุกท่านไปชมโรงแรมราคาประหยัดที่มีทำเลยอดเยี่ยมในเมือง Takayama กันครับ รับรองว่าโรงแรมนี้ต้องถูกใจเพื่อนๆผู้อ่านอย่างแน่นอนครับ!

ปัจจุบันนี้เมือง Takayama (ทาคายาม่า) มีชื่อเสียงมากๆในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยเพราะเมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ มีย่านเมืองเก่าที่สวยงามน่าเดินเล่น มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าแถบคันโตหรือคันไซ (ทำให้หิมะแถวนี้ตกเร็วกว่าและเยอะกว่าด้วยครับ) นอกจากนี้ทาคายาม่ายังมีงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก คือ Takayama Matsuri และที่สำคัญคือ ยังเป็นเมืองสำหรับ "คนรักเนื้อวัว" ให้ได้ลิ้มลองเนื้อวัวฮิดะอันโด่งดังและมีคุณภาพชั้นนำของประเทศด้วยครับ เท่านั้นยังไม่พอ! ทาคายาม่ายังถูกใช้เป็นฐานพักเพื่อเดินทางไปเที่ยวชิราคาวาโกะได้อย่างสะดวกหรือจะเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองอื่นแบบไปเช้าเย็นกลับตลอดจนเดินทางไปเมืองใหญ่อย่างนาโงย่าก็มีรถไฟด่วนวิ่งผ่านด้วย และทั้งหมดที่ผมกล่าวมานี้ก็เป็นเหตุผลที่ช่วยส่งเสริมให้ทาคายาม่าได้กลายเป็น "เมืองฮิต" ของใครต่อใครหลายคนแบบไม่ต้องสงสัยเลยล่ะครับ

ทีนี้เมื่อพูดถึงตัวเมืองแล้ว ถ้าใครมาเช้าเย็นกลับก็แล้วไป แต่ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่เพื่อนๆก็คงต้องนอนกันที่นี่สักคืนแหละ ก็เมืองนี้มันมีอะไรให้ชม ชิม ช็อป แชะ(ภาพ) แล้วก็แชร์ลงโซเชียลตั้งเยอะนี่นา! ที่แน่ๆ ที่พักนี่ล่ะ คือ ปัจจัยหนึ่งที่หลายคนถามหามากที่สุดแบบเป็นคำถาม classic ไปแล้วว่า "เที่ยวทาคายาม่าแนะนำโรงแรมไหนดี" ซึ่งตัวเองก็ได้ไปเที่ยวทาคายาม่าถึงสองครั้งจึงได้เขียนบล็อกรีวิวที่พักขึ้นมาไว้เป็นข้อมูลให้เพื่อนๆได้อ่านเป็นไอเดียครับ เอาล่ะ เข้าสู่เนื้อหากันเถอะ ^^

โรงแรมที่ผมจะมารีวิวในวันนี้ มีชื่อเต็มๆว่า Country Hotel Takayama (แต่ผมเห็นหลายคนมักเรียกสั้นๆว่า Country Hotel อ่ะนะ) มีโลเคชั่นที่ส่วนตัวผมขอบอกเลยว่า สุดยอดมากแล้ว เพราะว่าโรงแรมนี้อยู่ตรงข้ามท่ารถ Nohi Bus ที่เอาไว้ใช้เดินทางไปชิราคาวาโกะหรือเมืองอื่นๆของญี่ปุ่นไงครับ (และสถานีรถไฟ JR ก็อยู่ข้างๆท่ารถของบริษัทนี้แหละ ดังนั้น ที่ตั้งของโรงแรมนี้ก็ถือว่าสะดวกสุดๆแล้ว)

เมื่อออกมาจากสถานีรถไฟ JR Takayama แล้ว ให้มองหาตึกสูงๆหน้าตาตามภาพที่อยู่ติดถนนใหญ่ครับ ไม่พลาดแน่นอน จากนั้นพอเราอยู่หน้าตึก ขอให้เพื่อนๆเดินขึ้นบันไดขึ้นมาที่ชัั้น 2 ครับ แต่ใครที่มีสัมภารกก็ให้อ้อมใต้บันไดจะเจออีกประตูซึ่งข้างในจะมีลิฟต์อยู่ครับ สำหรับบรรยากาศที่ lobby ก็ตกแต่งง่ายๆ มีโบร์ชัวร์และที่นั่งอยู่จำนวนหนึ่งพร้อมกับมีตุ๊กตาซารุโบโบะซึ่งเป็นตุ๊กตายอดฮิตสัญลักษณ์ของเมืองทาคายาม่าวางอยู่ด้วยครับ

บอกก่อนเลยว่าเวลาเช็คอินของที่โรงแรมคือ 15:00 น. (บ่ายสามโมง) และเช็คเอาท์ตอน 10:00 น. (สิบโมงเช้า) นะครับ อย่าเอาเวลาในบ้านเราไปใช้กับที่โน่นล่ะครับ! แต่ละประเทศมีกฎการเข้าพักต่างกันเน้อออออ 

สำหรับใครที่เดินทางมาถึงตอนเช้าก็คงต้องหาเรื่องไปเดินเที่ยวหรือไปเดินเล่นซะก่อน แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ถ้าเรามาก่อนเวลาเช็คอินก็ฝากกระเป๋าไว้ที่ Front ได้ครับ ถึงเวลาก็ค่อยกลับมาเซ็นเอกสาร จ่ายเงินแล้วเข้าพักครับ ง่ายๆสบายๆ ส่วนพนักงานของโรงแรมก็สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษเบื้องต้นได้ครับ ไม่ต้องกังวลนะ!

ตัวโอทารุเองก็มาถึงทาคายาม่าในช่วงสายๆครับ อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเช็คอิน ก็เลยออกไปเดินเล่นในย่านเมืองเก่าฆ่าเวลาดีกว่าครับ สำหรับย่านเมืองเก่าก็อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก เดินไปเรื่อยๆแบบมนุษย์ท่องเที่ยวปกติก็ประมาณ 15-20 นาทีครับ มาชมภาพเมืองเก่ากันสักภาพเนอะ

ถ้าใครมาช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกก็จะได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่งนะครับ โดยช่วงเวลาที่ทาคายาม่าจะมีหิมะตกก็ตั้งแต่ราวๆกลางเดือนธันวาคมไปจนถึงปลายเดือนมีนาคมครับ อย่างไรก็ตามทุกวันนี้โลกวิปริตมาก อากาศคาดเดายาก ยังไงก็พยายามดูพยากรณ์อากาศไว้ก่อนเดินทางมาเที่ยวนะครับ เดี๋ยวจะเสียใจนะ! 

สภาพห้อง

หลังจากทานอาหารเย็นแล้ว ผมก็เดินกลับมาที่โรงแรมและเข้าเช็คอินครับ โดยครั้งนี้ ผมจองห้องแบบ Single Room กับ Double Room อย่างละหนึ่งห้อง (ผมนอนเดี่ยวครับ คุณพ่อคุณแม่นอนดับเบิ้ล) ซึ่งห้องทั้งสองแบบจะเหมือนกันเป๊ะ ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักและขนาดห้องที่ 12 ตารางเมตรเท่ากันครับ มาดูภาพกันได้เลย

ส่วนตัวผมก็รับได้กับขนาดห้องพักครับ (เพราะเน้นโลเคชั่นมากกว่า) แม้ว่าจะเล็กไปสักนิด แต่บอกเลยว่า "โรงแรมสามดาวก็ขนาดห้องประมาณนี้ในญี่ปุ่นทั้งนั้่นล่ะครับ ถ้าอยากได้กว้างๆ ไปพัก airbnb หรือห้องเช่ารายวันเถอะ จะตรงใจกว่า"   

ห้องน้ำก็ถือว่าไม่แย่นะครับ อย่างน้อยก็มีอ่างขนาดจิ๋วไว้ให้เราลงไปแช่ได้แบบหนึ่งคนถ้วนพอดี (หรือจะเปิดน้ำร้อนแช่เท้าก็ได้ ไม่ผิดกติกา) ส่วนพวกสบู่หรือยาสระผมจะเป็นแบบกดจากเครื่อง ยี่ห้อ Kao (ที่เป็นรูปพระจันทร์อ่ะ บ้านเราก็มี)

วันที่ผมไปนอนนั้นอยู่ในช่วงต้นเดือนเมษายนครับ อากาศเย็นสบายและซากุระกำลังบานพอดี แอร์ของห้องพักจริงๆก็มีอยู่ แต่ผมชอบอากาศเย็นๆแบบธรรมชาติก็เลยแง้มหน้าต่างนอนซะเลย ผมว่าสบายดีนะ คืนนั้นราวๆ 13 องศาเซลเซียสเห็นจะได้ หลายคนอาจจะบอกว่าหนาวแต่ผมมีความคิดว่า "บ้านตัวเองตอนนี้คงจะ 40 องศา อย่าว่างั้นงี้เลย ขอเก็บอากาศหนาวไปบ้างเหอะ ยอม" ส่วนใครจะทำตามผมหรือไม่ ก็แล้วแต่เลยครับ 555

อาหารเช้า+ค่าห้อง

ราคาห้องที่ผมจ่ายจะรวมอาหารเช้าไปแล้วด้วย ทำให้ตอนเช้า ผมก็ลงมารับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารชั้นหนึ่งของโรงแรมครับ อาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์สไตล์ญี่ปุ่น คือ หลักๆจะประกอบด้วยไข่คน ไส้กรอก สลัด ผัดผัก ผักดองในท้องถิ่น (ผมว่าอร่อยมาก) โซบะผัด ขนมปัง พร้อมเนยและแยม โยเกิร์ต ซุปมิโซะ ชา กาแฟ แถมมีน้ำอัดลมด้วยล่ะ เอ้า! ซึ่งโดยรวมอาหารเช้ามากมายขนาดนี้ในราคา 250 บาทไทย ผมถือว่าได้เยอะมากแล้ว เอาล่ะ! มาชมภาพอาหารกันก่อนดีกว่าครับ 

สำหรับใครที่ไม่อยากจ่ายค่าอาหารเพิ่มหรืออยากประหยัดหรือดูรูปอาหารแล้วคิดว่า "ไม่โดน" ท่านก็ยังมี Family Mart หน้าโรงแรมครับ อาหารสำเร็จรูปและอื่นๆมีขายมากมาย ของที่ระลึกก็มีให้เสียเงินซื้อได้เลยเพราะของบางอย่างหาซื้อในเมืองอื่นไม่ได้นะครับ เตือนแล้วนะ!

และหลังจากที่ผมรับประทานอาหารเช้าเสร็จก็จะเป็นการเดินไปที่ท่ารถ Nohi Bus ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ถึงหนึ่งนาทีเดิน เราก็สามารถขึ้นรถบัสเพื่อไปชมชิราคาวาโกะ (Ogimachi Village) ได้ด้วย

ส่วนเพื่อนๆที่อยากทราบราคาห้องพักว่าประมาณเท่าไหร่ ผมก็ขอแจ้งให้ทราบเป็นข้อมูลดังนี้ 

ห้องเดีี่ยว (Single Room) ราคา 1,760 บาทหรือประมาณ 6,200 เยนต่อห้องต่อคืน+รวมอาหารเช้า

ห้องดับเบิ้ล (Double Room) ราคา 2,243 บาทหรือประมาณ 7,800 เยนต่อห้องต่อคืน+รวมอาหารเช้า

**อัตราค่าห้องพักอาจเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล/อัตราแลกเปลี่ยนเงินเยน/โปรโมชั่นหรือดีลพิเศษจากเว็บไซต์จองโรงแรมต่างๆ ดังนั้นผมแนะนำให้ดูราคาจากหลายๆเว็บไซต์ก่อน ถูกใจอันไหนก็ค่อยจ่ายเนอะ

ส่วนกรณีที่ใครจองเฉพาะห้องอย่างเดียว (Room only) ก็อาจลดค่าห้องไปได้อีกสองร้อยกว่าบาทครับ อ้อ! ที่นี่มีห้องแบบทริปเปิ้ลด้วยนะครับ แต่มีน้อยห้องและมักจะเต็มเสมอ ถ้ามันว่างก็จองไว้ล่ะ เดี๋ยวพลาด!

สรุป

ข้อดี

1. เดินจาก JR Takayama แค่หนึ่งนาที และ ใกล้ท่ารถบัส Nohi Bus สุดๆ

2. ใต้โรงแรมมีที่จอดรถ (คิดไม่แพง) วันละ 500 เยน

3. มีร้านสะดวกซื้อหน้าโรงแรม กดลิฟต์ลงมาชั้นหนึ่งแล้วเดินออกมาข้างนอกก็เจอเลย

4. ห้องพักราคาไม่แพงและอาหารเช้ามีให้เลือกเยอะ 

5. เจ้าหน้าที่ที่ Front พูดภาษาอังกฤษแบบพื้นฐานได้และ Front เปิด 24 ชั่วโมง

6. Free Wifi ทั่วโรงแรม!

ข้อเสีย

1. ห้องพักค่อนข้างเก่าและถือว่าแคบสำหรับหลายๆคน

2. ไม่มี Onsen ให้แช่

และทั้งหมดนี้ก็คือรีวิวโรงแรม Country Hotel Takayama จากโอทารุครับ แล้วพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะครับเพื่อนๆ!

-----------------------------------------------------

ภาพปกจาก https://q-fa.bstatic.com/data/xphoto/1920x810/336/33642248.jpg

ภาพล็อบบี้ของโรงแรมจาก http://www.countryhoteltakayama.com/en-us/gallery#66005

ภาพที่เหลือที่มีการลงลายน้ำเป็นภาพถ่ายของโอทารุทั้งหมด ท่านใดจะนำไปใช้กรุณาขออนุญาตก่อนนะครับ

-----------------------------------------------------

ติดต่อโอทารุได้อย่างไร

สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการสอบถามเรื่องการท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็สามารถมาพูดคุยทักทายกันได้ โดยพิมพ์ชื่อ Otaru Taichou ในช่องค้นหาของ Facebook แล้วกดขอเป็นเพื่อนครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปกดรับเองครับ