EasyBlog

This is some blog description about this site
ศาลเจ้าแห่งการเรียนกลางเมืองโอซาก้า

กลับมาพบกับโอทารุกันอีกครั้งนะครับ เป็นอย่างไรกันบ้างกับฤดูกาลแห่งซากุระอันงดงามครับเพื่อนๆ?? ผมเชื่อว่าหลายๆท่านน่าจะหลงเสน่ห์ญี่ปุ่นยามซากุระบานกันเป็นจำนวนมากชัวร์ๆเลยล่ะ และถ้าติดใจกันแบบนี้ อย่าลืมส่องตั๋วโปรกันไว้ให้ดีนะครับ และสำหรับสัปดาห์นี้ ผมจะขอกล่าวถึงศาลเจ้าแห่งหนึ่งในโอซาก้าเสียหน่อยเพราะเป็นศาลเจ้าที่ไม่ได้ดังในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติสักเท่าไหร่แต่คนญี่ปุ่นนี่ไปกันเพียบเลยล่ะ ว่าแต่ศาลเจ้าที่ว่าคือที่ไหน ตามผมมาได้เลยครับ!

ศาลเจ้าในโอซาก้าที่ผมจะมาแนะนำในวันนี้ก็คือ ศาลเจ้า Osaka Tenmangu ครับ ศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติที่เก่ามาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 10 เลยล่ะครับ แถมได้รับการยกย่องให้เป็นศาลเจ้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศด้วย เพราะศาลเจ้าแห่งนี้บูชา "เทพแห่งการเรียน" หรือที่รู้จักในนาม Sugawara Michizane นั่นเองครับ (เมื่อก่อนท่านก็เป็นขุนนางญี่ปุ่นนี่แหละ แต่ชะตากลับโดนป้ายสีจากผู้ใหญ่ในราชสำนัก สุดท้ายก็ต้องโทษประหาร จนต่อมาภายหลังก็ได้มีการยกย่องท่านให้เป็นหนึ่งในเทพญี่ปุ่นตามศาสนาชินโตครับ) และแน่นอนว่าเมื่อเอ่ยถึงท่าน Michizane ในฐานะเทพแห่งการเรียนนั้น ก็ต้องไม่พ้นการ "ขอพร" จากท่านนั่นเอง! และพรที่ถูกขอมากที่สุดก็มาจากเหล่านักเรียนนักศึกษาของญี่ปุ่นที่กำลังจะสอบเข้าเรียนต่อหรือสอบเข้าสู่ระดับอุดมศึกษาเพราะมีความเชื่อว่าหากมาขอพรจากท่านแล้วท่านก็จะช่วยให้เราสอบผ่านฉลุยตามที่อธิษฐานไว้ครับ

...แต่โอทารุก็ยังไม่ได้ลองนะครับ เพราะผมก็เลยวัยสอบเข้าอุดมศึกษามาเกือบจะสิบปีแล้ว!!! ดังนั้นก็ได้แต่ดูเหล่านักเรียนนักศึกษาที่แวะเข้ามาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้ครับ

ภายในของศาลเจ้ามีอาณาเขตที่กว้างขวางพอตัวทีเดียว (เมื่อเทียบกับประเทศญี่ปุ่นที่มีการใช้เนื้อที่แต่ละตารางเมตรได้คุ้มมาก) พอพ้นประตูใหญ่มาได้ก็จะพบกับตัวศาลเจ้าใหญ่ที่สร้างด้วยไม้ครับ สำหรับตัวศาลเจ้าเองนั้น ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะมาก ประวัติของตัวศาลเจ้าก็ไม่ธรรมดาเพราะเจอไฟไหม้มาหลายครั้งด้วยกัน แต่ไหม้แล้วก็สร้างใหม่เรื่อยๆ จนกระทั่งศาลเจ้าที่เราเห็นกันทุกวันนี้คือรุ่นสร้างขึ้นใหม่เมื่อราวๆปี ค.ศ. 1845 ครับ  

 

สำหรับการสักการะเทพเจ้าของศาลเจ้าแห่งนี้ก็ทำตามธรรมเนียมของชินโตเฉกเช่นศาลเจ้าอื่นครับ นั่นก็คือ

1. ชำระแขนและมือทั้งสองข้างจากบ่อน้ำที่เตรียมไว้

2. (ถ้ามี) ถอดหมวกออกก่อน

3. โยนเหรียญลงไปในช่องใส่เหรียญ (ที่เป็นซี่ๆ) จากนั้นให้รวบรวมสมาธิ

4. สั่นกระดิ่งให้เกิดเสียง เพื่อเป็นการอัญเชิญเทพเจ้าให้มาประทับในศาลเจ้า

5. โค้งคำนับสองครั้ง

6. อธิษฐานขอพรจากเทพเจ้า

7. ตบมือ 2 ครั้ง

8. โค้งคำนับอีกหนึ่งครั้งแล้วก็ออกมาจากบริเวณที่สักการะ ก็เป็นอันจบพิธีการขอพรแบบง่ายๆครับ

 

การเดินทางมาที่ศาลเจ้านี้ก็ไม่ได้ยากเย็นเลย แถมจะเพลินด้วยซ้ำเพราะใกล้ๆกับศาลเจ้ามี shopping arcade อยู่ด้วย โดยถนนละลายทรัพย์แห่งนี้มีชื่อเรียกว่า Tenjinbashisuji Shotengai ครับ ถ้ามาจากรถไฟฟ้าใต้ดินให้ลงที่สถานี Minami-morimachi หรือถ้าใช้ JR ก็ลงสถานี Osakatemmangu ได้เช่นกันครับ ใช้เวลาเดินแบบเรื่อยๆก็ประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้นก็จะถึงทางเข้าศาลเจ้าแล้วครับ  

ทั้งนี้โอทารุขอบอกไว้สักนิดว่า ศาลเจ้าแห่งนี้มีเวลาเปิดปิดนะครับ!!! ไม่ได้เดินเข้ามาได้ 24 ชั่วโมงแบบบางศาลเจ้า โดยมีช่วงเวลาเปิดให้เข้าสักการะเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเวลา 09.00-17.00 น. ทุกวันครับ ส่วนค่าเข้าชมเหรอ...FREE!!!!! 

สำหรับบล็อกนี้มีเรื่องราวที่จะนำเสนอเพียงเท่านี้ครับ ใครไปขอพรแล้วสมกับที่ขอไว้ก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะครับแล้วพบกันใหมสัปดาห์หน้าและขอต้อนรับสู่ฤดูร้อนนะครับ!!!

---------------------------------------------------------

ภาพปกจาก https://dailypost.files.wordpress.com/2013/03/3155329335_8a5bbf1b25_b.jpeg

แผนที่จาก http://www.fnetravel.com/english/osakahotels/ilgrandeumeda/il-grande-umeda-map.jpg

ภาพที่ลงลายน้ำถ่ายจากกล้องของโอทารุ ห้ามผู้ใดนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตครับ!

----------------------------------------------------------

ติดต่อโอทารุผู้เขียนได้อย่างไร?

หากเพื่อนๆมีข้อสงสัยเรื่องการท่องเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอยากสอบถาม --> เชิญ add friend ทาง Facebook ครับ พิมพ์คำว่า Otaru Taichou ในช่องค้นหา เดี๋ยวว่างๆ ผมจะเข้าไป add รับเป็นเพื่อนเองครับ ^__^

ปราสาท Matsumoto เตรียมรับมือแผ่นดินไหว
รีวิว Cathay Pacific บินสู่กรุงโตเกียวช่วงหน้าร้อน