EasyBlog

This is some blog description about this site
Unseen Osaka กลางย่านนัมบะที่แสนคึกคัก!

สวัสดีท่านผู้อ่านครับ! พบกับโอทารุกันอีกแล้วนะครับ! เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับช่วงนี้ครับ ตั๋วโปรเริ่มโผล่เข้ามาเขย่าใจให้กดซื้อกันพอสมควรเลยใช่ไหมล่ะครับ! โอทารุเองก็เจอตามหน้าจอเช่นกัน ก็ได้แต่อดใจเพราะช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงที่ตั๋วไปญี่ปุ่นถูกที่สุดในรอบปีนั่นเองครับ! แม้ว่าอากาศจะร้อนพอๆกับบ้านเรา แต่ในห้างหรือในตึกเขาก็เปิดแอร์ให้เช่นกัน แถมฤดูร้อนตามริมแม่น้ำบางที่เขาก็มีการจุดพลุกันอย่างอลังการด้วยล่ะ ดังนั้นญี่ปุ่นช่วงไหนก็มาเที่ยวได้ทั้งนั้นครับ ^^ และสำหรับวันนี้โอทารุจะมาเผย "มุม Unseen" ในเมืองสุดฮิตของชาวไทยอย่างโอซาก้ากันครับ!!!

ปัจจุบันนี้เมื่อกล่าวถึงโอซาก้า น้อยคนมากๆที่จะบอกว่าไม่รู้จัก เพราะเมืองนี้เดินทางง่ายจากประเทศไทย แถมมีอาหารการกิน ที่พัก แหล่งช็อปปิ้งต่างๆที่โดนใจไปจนการแวะไปชมเมืองข้างเคียงระดับโลกอย่างเกียวโตได้ง่ายดายก็ล้วนทำให้โอซาก้าเนื้อหอมเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้นี่แหละครับ!

และเมื่อพูดถึงเมืองแห่งนี้แล้ว ใครๆก็ทราบว่า ย่านหลักๆ นั้นมีอยู่ 2 ย่านก็คือ Umeda (อุเมดะ) กับ Namba (นัมบะ) ซึ่งทั้งสองย่านนั้นจะมีความแตกต่างกันอย่างมาก ถ้าสรุปง่ายๆก็คือ ย่าน Umeda จะให้ความรู้สึกแบบผูู้ใหญ่ขรึมๆและหรูหรา ขณะที่ Namba จะให้ความรู้สึกเป็นกันเองมีความบันเทิงเฮฮาครับ ส่วนความฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวนั้น คงต้องบอกว่า นัมบะได้รับความนิยมกว่าเพราะมีไฮไลท์เด็ดอยู่สองประการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ (รวมทั้งชาวไทย) ไม่พลาด นั่นก็คือ "ป้ายไฟกูลิโกะและทานขาปูยักษ์" พร้อมด้วยแหล่งละลายทรัพย์ที่ถนนคนเดิน Shinsaibashi ที่พร้อมดูดเวลาของขาช็อปให้เดินได้ทั้งวันทั้งคืนกันเลย!

แต่!!!!!! เชื่อไหมว่า ที่ย่านนัมบะแห่งนี้ยังมี "Unseen" ซ่อนอยู่ในย่านนัมบะที่เราคุ้นเคยกันนี่แหละ และผมยังมั่นใจอีกด้วยว่า หลายคนก็เดินผ่านเฉียดไปเฉียดมาแบบไม่รู้ตัวอีกด้วย! ซึ่งผมเองในฐานะที่ชอบสถานที่แปลกๆ ก็เลยไปเสาะหาสถานที่ดังกล่าวด้วยตนเองเพื่อมานำเสนอให้เพื่อนๆผู้อ่านให้ทราบไว้เป็นความรู้กันครับ ^^

สำหรับสถานที่ Unseen ที่ผมจะมาแนะนำในวันนี้ก็คือ Hozenji Yokosho หรือ ตรอกโฮเซ็นจิ ครับ! ตรอกที่ว่านี้ก็อยู่ในถนนย่านถนนคนเดินไม่ไกลจากร้าน "ขาปูยักษ์ชื่อดัง" นั่นแหละครับ ตรงที่เป็นถนนคนเดินมีหลังคาคลุมตลอดทางนั้นเอง! โดยตรอกนี้จะอยู่ใกล้ๆกับร้าน Book Off Plus สาขา Namba-Ebisubashi ถ้าตั้งต้นจากร้านที่ว่านี้เดินไม่ถึงห้านาทีก็เจอตรอกที่ว่าแล้ว!

นี่ครับหน้าตาของทางเข้า

และเมื่อเราเดินเข้าไปถึงตรอกที่ว่า ก็จะได้พบกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง นั่นคือ วัดโฮเซ็นจิ ซึ่งเป็นวัดญี่ปุ่นที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางความพลุกพล่านและแสงสีของย่านนัมบะมาช้านานครับ! โดยมีประวัติย่อๆ คือ สร้างมาตั้งแต่ปี 1637 ในช่วงสมัยเอโดะพรัอมกับอาณาบริเวณที่กว้างขวางและแวดล้อมไปด้วยโรงน้ำชาและร้านขายของต่างๆ จนกระทั่งเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ตัววัดถูกทิ้งระเบิดจากฝ่ายสัมพันธมิตร แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่งที่รอดมาได้ก็คือ ฟุโด้เมียวโอ และฟุโด้องค์ดังกล่าวก็ยังประดิษฐานอยู่ที่วัดตราบจนปัจจุบันนี้

เอาล่ะ เมื่ออ่านความเป็นมาจบแล้ว หลายท่านคงอยากทราบว่า "แล้วมัน Unseen ตรงไหน" ผมก็ขอเฉลยให้ถึงบางอ้อกันเลยว่า Unseen ที่ว่าก็คือ องค์ฟุโด้เมียวโอของที่นี่นั่นแหละ! ส่วนความแตกต่างเหรอ...ง่ายมาก! ฟุโด้เมียวโอองค์นี้มีมอสสีเขียวคลุมขึ้นมาทั่วทั้งองค์ไงล่ะ ดูรูปได้เลยครับว่าหน้าตาของท่านเป็นอย่างไร

เป็นไงล่ะครับ Unseen ไหมล่ะ!!!

เอาล่ะ ทีนี้มาดูหน้าตาของฟุโด้เมียวโอในญี่ปุ่นแบบปกติธรรมดากันบ้าง

แบบธรรมดาจะเห็นว่าท่านหน้าดุและมีเปลวไฟอยู่ด้านหลังบ่อยๆครับ

จากสองภาพที่ผมกล่าวมาจะเห็นได้ว่า ฟุโด้เมียวโอที่วัดโฮเซ็นจิมีความแปลกประหลาดกว่าชาวบ้านมากๆ เพราะปกติท่านจะเป็นเทพหน้าดุ (แต่ท่านเป็นผู้คุ้มครองศาสนาพุทธตามความเชื่อของนิกายวัชรยาน ซึ่งเป็นแบบเดียวกับธิเบตนะครับ ส่วนทางฝั่งไทย เราอาจจะไม่คุ้นเคยกับท่านมากนัก แต่ก็มีกล่าวชื่อภาษาไทยไว้ด้วยว่า ท่านชื่อ วิทยราช และถูกจัดให้เป็นเจ้าแห่งความรู้ด้วยล่ะ)

ส่วนคำถามที่ว่า "ทำไมองค์นี้ถึงมีมอสคลุมขนาดนี้" โอทารุก็คงต้องบอกว่า มีตำนานเล่าขานกันมาเกือบร้อยปีก่อนว่าราวๆ ช่วงปี ค.ศ. 1890 มีสุภาพสตรีญี่ปุ่นท่านหนึ่งมาอธิษฐานของพรกับองค์ฟุโด้ที่วัดแห่งนี้โดยการรดน้ำใส่องค์ท่าน ปรากฎว่าในเวลาต่อมา พรที่ได้ขอไว้ก็สมประสงค์ขึ้นมา ทีนี้ชาวเมืองโอซาก้าก็เลยบอกต่อๆกันว่าถ้ารดน้ำขอพรแบบนี้จะได้สมปรารถนาแน่ๆ ก็เลยทำตามกันมาเรื่อยๆจนถึงยุคปัจจุบันจนตะไคร่ขึ้นแบบที่เห็นในภาพนี่แหละครับ! เสียดายที่ผมสืบค้นไม่พบว่าคุณผู้หญิงท่านแรกที่ทำแบบนี้ขอพรด้วยเรื่องอะไร ไม่งั้นน่าจะมีคนขอให้ถูกทางมากกว่านี้อีก!

 

อ่ะ ดูแบบเต็มๆกันเลย!

สำหรับบริเวณรอบๆของวัดที่ผมไปเดินสำรวจมาก็จะมีที่ให้เราจุดและวางเทียน รวมถึงโคมไฟสไตล์ญี่ปุ่นแล้วก็ภาพสลักหินพระพุทธเจ้าอีกเล็กน้อย เพราะพื้นที่ของวัดนอกเหนือจากนี้จะถูกโอบล้อมไปด้วยร้านอาหารและตึกสมัยใหม่หมดเรียบร้อยแล้ว!

 

จากนั้นผมก็ยืนชมบรรยากาศอีกสักเล็กน้อย ซึ่งเท่าที่ผมยืนดูความเป็นไปของผู้คนจะพบว่า ส่วนใหญ่จะเป็นชาวญี่ปุ่นที่เข้ามากราบไหว้เยอะที่สุด ฝรั่งก็มีบ้าง คนจีนก็มีนิดหน่อย ส่วนคนไทยตอนที่ผมไปยืนส่องอยู่ก็ไม่เห็นครับ (แต่เพื่อนๆของผมบางคนก็บอกว่าตัวเองเคยเดินหลงเข้ามาเหมือนกันนะ คือไม่ได้ตั้งใจมาแต่ก็เดินเข้ามาเจอก็สักการะซะเลย แนวๆนั้น) จากนั้นเมื่อได้เวลาอันสมควร ผมก็กราบลาฟุโด้มอสองค์นี้เพื่อเดินกลับไปที่ร้าน Book off เพื่อไปเลือกสินค้าที่ตัวเอง list ไว้ต่อไปครับ จบการพาเที่ยวแบบสั้นๆเท่านี้ครับ!

 

สรุป

วัดแห่งนี้เหมาะกับคนที่ต้องการ "หลีกหนีความวุ่นวายจากย่านช็อปปิ้ง" เข้ามาแล้วจะรู้สึกว่าความคึกคักเข้ามาไม่ถึงที่นี่นะครับ ร้านอาหารในตรอกแถวนี้ก็มี แต่ดูแล้วจะเน้นคนญี่ปุ่นมากกว่าหรือถ้ามีเวลาว่างจากการละลายทรัพย์แล้วก็เดินเข้ามาได้ หาไม่ยากมากและใช้เวลาไหว้ไม่ถึง 10 นาทีก็เสร็จแล้ว (ผมเดินเก็บทุกส่วนยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลย) และท้ายที่สุดนี้ ขอบอกเลยว่า "เข้าฟรี" แต่จะบริจาคให้วัดเท่าไหร่ก็ได้ไม่ว่ากันครับ!!!

หวังว่าเพื่อนๆจะได้ไอเดียที่เที่ยวแปลกใหม่บ้างนะครับ จริงๆแล้วโอซาก้ายังมีที่เที่ยวดีๆเด็ดๆซ่อนอยู่นอกตำราอีกเยอะ หากมีโอกาส ผมจะนำมาเสนอให้อ่านอีกนะครับ หากมีโอกาสมาเที่ยวแถวนัมบะก็อย่าลืมมาทำบุญกันที่นี่นะครับ! ^___^

----------------------------------------------------

ผู้อ่านท่านใดสนใจทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวโอซาก้า/เกียวโต/นาระ แบบส่วนตัวสามารถคลิกที่ลิงค์นี้ www.ilovejapantours.com/th เพื่อติดต่อบริษัท ilovejapantours ได้นะครับ บริษัทนี้เชี่ยวชาญการจัดทัวร์เฉพาะกรุ๊ปของเราครับ!

----------------------------------------------------

ภาพปกและภาพทั้งหมดนอกจากภาพฟุโด้ดั้งเดิมเป็นภาพถ่ายจากกล้องของโอทารุ (ลงลายน้ำไว้แล้ว) และห้ามนำรูปเหล่านี้ไปใช้เพื่อกิจการส่วนตัวยกเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผมนะครับ!

ภาพฟุโด้แบบปกติ จาก https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/236x/cf/1c/b1/cf1cb108a8d49d9c7667b5d63c440d24.jpg

----------------------------------------------------

ติดต่อโอทารุผู้เขียนบล็อกนี้ได้อย่างไร?

หากเพื่อนๆมีข้อสงสัยเรื่องการท่องเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอยากสอบถาม--->เชิญ add friend ทาง Facebook ครับ พิมพ์คำว่า Otaru Taichou ในช่องค้นหา แล้วเดี๋ยวผมจะมากดรับเป็นเพื่อนเองครับ!

 

 

 

 

 

รีวิว Cathay Pacific บินสู่กรุงโตเกียวช่วงหน้าร้อน
Update ข่าวการย้ายตลาดปลา Tsukiji สู่ที่ตั้งแห่งให...